ปัญหาอย่างหนึ่งของระบบ E-Commerce ด้วยการจ่ายผ่านบ้ตรเครดิต Online ด้วย บ้ตร Visa Card / Master Card ที่มักจะเจอคำถามจากเจ้าของบริษัท ฯ เมื่อตัดสินใจใช้บริการระบบ Payment แล้ว จะถามเผือไปยังผู้บริโภค เมื่อเขาเจอ Verified By Visa และ Master Card Secure code จะทำอย่างไร ?
ทำความเข้าใจกันก่อนว่า Verified By Visa ทำไมต้องมี ? ซึ่งจากการใช้บัตรเครดิต ของผู้อื่น หรือ การใช้บัตรเครดิตปลอมกรณีไปซื้อของต่างประเทศ ทำให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก จึงทำให้ บริษัท VISA International / บริษัท MasterCard International พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการชำระค่าสินค้าและบริการผ่านบัตรเครดิต ท่านสามารถซื้อสินค้าและบริการออนไลน์ด้วยความมั่นใจพร้อมกับความเป็นส่วนตัวโดยใช้ password ของ Verified by VISA และ ข้อความยืนยันส่วนตัว (Personal Assurance Message: PAM) / password ของ MasterCard SecureCode และ ข้อความยืนยันรหัสส่วนตัว (Personal Greeting) ข้อดีอีกอย่าง
– บริการนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ท่าน ในการซื้อสินค้าและบริการแบบทางอินเทอร์เน็ต โดยท่านจะมั่นใจได้ว่าร้านค้า e-Commerce ที่ท่านกำลังทำรายการอยู่นั้น ได้ลงทะเบียนกับ VISA International / MasterCard International อย่างถูกต้อง
ตัวอย่างการลงทะเบียน ของ Kbank http://www.kasikornbank.com/TH/Personal/Credit/Documents/Link%201.pdf
คลิกที่นี่หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเกี่ยวกับ Verified by VISA
บัตรเครดิตวีซ่า ที่ออกโดย สถาบันผู้ออกบัตรในไทย
ณ ปัจจุบัน มีสถาบันผู้ออกบัตรทั้งสิ้น 7 แห่ง ที่รองรับ Verified by VISA. ท่านสามารถคลิกที่โลโก้ของผู้ออกบัตรด้านล่าง เพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่หน้าลงทะเบียนและสมัครบริการ.
บัตรเครดิตวีซ่า ที่ออกโดย สถาบันผู้ออกบัตรต่างประเทศ
ท่านสามารถหาข้อมูลและลิงค์ไปยังหน้าลงทะเบียนและสมัครบริการนี้ ตามภูมิภาค ดังนี้
Europe : คลิกที่นี่เพื่อเลือกประเทศของสถาบันผู้ออกบัตรวีซ่า ในโซนยุโรป
USA : คลิกที่นี่เพื่อสมัคร Verified by VISA สำหรับบัตรวีซ่าที่ออกในอเมริกา
Asia : คลิกที่นี่เพื่อเลือกประเทศของสถาบันผู้ออกบัตรวีซ่า ในโซนเอเชีย
Payment Online ถือว่า เท่าที่ใช้มาจ่ายค่าโทรศัพท์มือถือ ชำระค่าสินค้าต่าง ๆ ในตลอดระยะเวลา มากกว่า 2 ปี ด้วย Verified By Visa สร้างความปลอดภัยได้ระดับ 100% แล้วครับ
One thought on “ทำความเข้าใจกับ Verified by VISA และ MasterCard SecureCode”