อาจจะมองต่างมุมจากแนวคิดหลาย ๆ คน สินค้าทุกอย่างมันไปลงตัวกับ การตลาด 2.0 หรือ ทางด้าน Social Network ซะเกือบหมดแต่บางครั้งมานั่งทบทวนตัวเองช่วงนี้สนใจกับของประเภทหนึ่ง “วิทยุสื่อสาร” แต่ในโลก Social Network เพื่อน ๆ ที่อยู่ในโลก Facebook คงจะไม่มีใครชอบเหมือนกับเราทุกคน เพราะสินค้านี้เป็นสินค้าประเภท ชอบโดยส่วนตัว หรือ จะอาจจะมีสินค้าหลายประเภท รสนิยมส่วนตัว ก็ต้องมีพื้นที่ประเภทส่วนตัวที่ชอบเหมือนเรานั้นให้เราหาข้อมูล ถ้าจะไปหาข้อมูลใน Facebook นั้น เท่าที่เราไปสำรวจหลาย ๆ แห่ง ดู ๆ แล้ว Web community นั้นทำได้ดีกว่าที่อยู่ใน face book มีการบริหารการจัดการของเจ้าของ Web ทำให้เกิดความน่าเชื่อถืออีก
จากความอยากได้วิทยุสื่อสาร รุ่นที่ชอบในอดีต เพิ่มอีก สัก 1 ตัว ไปเจอ Website ของ Hamsiam เข้าโดยบังเอิญไปดูรายละเอียดของการสร้าง community ที่น่าสนใจ มีร้านค้า วิทยุสื่อสาร ทั้งร้านค้าปลีก และ คนที่ชอบทางด้าน Electonic เข้ามาดัดแปลงอุปกรณ์ แล้วนำมาขายให้สมาชิกที่อยู่ใน Web นี้ เมื่อเราเจอกระทู้ที่ร้านค้าเขาขายมา “สินค้าน่าสนใจจริง ๆ ” คำถามต่อมา จะเชื่อถือได้อย่างไร ว่าร้านค้านี้ไม่โกง
1. เจ้าของ Website มีส่วนร่วมในการตรวจสอบจากผู้ขายให้ กรณี “ผู้ซื้อได้รับสินค้าไม่ครบ ไม่ได้รับสินค้า หรือได้สินค้าไม่ตรง”
2. มีคนเคยซื้อหรือไม่ หรือว่าเป็นหน้าม้า
ผมเจอสินค้านี้เข้าโดยบังเอิญ เป็นการเอา Power supply ของ Computer มาดัดแปลง เป็น Regulator ขนาดร้านค้าทั่วไป ขายในราคา 3 – 4 พันบาท แต่อยู่ในราคา 1,000 บาท โดยสนใจอย่างยิ่ง ซึ่งเราส่งข้อมูลส่วนตัวไปยังร้านค้าดังกล่าว ก็มีการตอบกลับอย่างรวดเร็ว
ได้รับ feedback จากผู้ขายอย่างรวดเร็ว แล้วคนอื่น ๆ ละ ซื้อไปแล้วได้รับสินค้าไหม
หลังจากเข้าไปอ่านในกระทู้ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจ ว่าสินค้าเขาทดสอบจากนักวิทยุสมัครเล่น แบบโชกโชน ซึ่งเป็น Contents ที่หาไม่ได้ถ้าไม่ใช่คนชอบสินค้าประเภทนี้ ผลสุดท้ายไม่วายต้องสั่งซื้อสินค้าไป 1 ชิ้น อยู่ระหว่างรอของจัดส่ง มาถึงตัวเรา
บทสรุป Case Study นี้เป็นส่วนหนึ่งของตัวอย่างเล็ก ๆ ที่ Brand สินค้าที่ผมเคยเข้าไปติดต่อนั้น จะไม่ได้มองที่ Product ตัวเองก่อนว่าสินค้าที่เราขายนั้น มันเฉพาะเจาะจงกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือไม่ แต่อยากให้กระจายผ่านทาง Social network ให้มากที่สุด ซึ่งบางทีมันอาจจะไม่ใช่ก็ได้
ทุกอย่างของสินค้าที่เป็นเฉพาะกลุ่มการทำการตลาด ควรจะ
1. สร้างความรู้กับตัวสินค้าก่อน ( ความรู้ดี ๆ ควรจะอยู่ใน website ของตนเอง ) แล้วใช้ Face book ในการกระจายออกไป (Mkt)
2. สร้าง Community ที่ชอบสินค้าประเภทเดียวกัน ควรจะอยู่ในที่เดียวกัน (Facebook ข้อแตกต่างคือ คนที่เป็นเพื่อนเราอาจจะไม่ชอบเหมือนเรา อาจจะพา unfriend / unlike Brand ก็เป็นได้)
3. Commerce ดีที่สุดก็ควรจะอยู่ใน Website เรา เพราะมันก็ง่ายในการควบคุม รวมถึงการต่อยอดในการทำอะไรอื่น ๆได้อีก
จิตวิทยาในการทำ Website ให้ประสบความสำเร็จข้อปลีกย่อยมันมีอีกมากมาย
ติดต่อการทำ Website + Strategic ในการขายสินค้าให้ได้
นายอนันตชัย อิทธิวรพงศ์
Senior Sale Manager
Idea2mobile.com
Mobile :0866188111
Email : anantachai@idea2mobile.com