แอลกอฮอล์เครื่องดื่มยอดนิยมของผู้บริโภคไทย ถึงแม้จะไม่สามารถโฆษณาตาม พระราชบัญญัติ ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ได้แต่ความต้องการของผู้บริโภคก็ยังคงชื่นชอบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นอย่างดี เครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์ นั้นก็มีหลายประเภท วันนี้ขอเอารายงานของ Euro monitor ในปี 2024 มาวิเคราห์ภาพรวมของคนไทยที่มีต่อเครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์นั้นเป็นอย่างไร และแนวโน้มในปี 2025 รวมถึง Case Study Leo Supreme ที่เจาะตลาดในปีที่ผ่านมา
ตลาดภาพรวมในปี 2024 กับเครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์
source : Euro monitor ในปี 2024
1. ภาพรวมตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศไทย
- ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปี 2024 เติบโตขึ้น โดยเฉพาะเบียร์และสุรานำเข้า ขณะที่ไวน์และไซเดอร์ยังคงเป็นตลาดขนาดเล็ก
- การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวหลังโควิดมีผลสำคัญต่อยอดขาย โดยพื้นที่เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยา เป็นจุดศูนย์กลางของการบริโภค
- แนวโน้มสุขภาพและการควบคุมแอลกอฮอล์มีผลต่อการพัฒนาสินค้า เช่น การผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีแอลกอฮอล์ต่ำหรือไม่มีแอลกอฮอล์เลย
2. แนวโน้มสำคัญในปี 2024
- การเพิ่มขึ้นของราคาจากอัตราเงินเฟ้อ ทำให้เครื่องดื่มระดับพรีเมียมได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มชนชั้นกลางที่มีกำลังซื้อสูง
- สุขภาพเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการพัฒนาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ และโฆษณาสินค้าเหล่านี้มุ่งเน้นถึงคุณภาพและสุขภาพ
3. โครงสร้างการแข่งขัน
- ตลาดเบียร์ในไทยถูกครองโดยสองบริษัทใหญ่ คือ Thai Beverage และ Boon Rawd Brewery
- Siam Winery ยังคงเป็นผู้นำในไวน์และเครื่องดื่มผสม แต่มีการแข่งขันที่สูงในตลาดเบียร์
- แบรนด์ใหม่อย่าง Carabao เข้ามาแข่งขันในตลาดด้วยสินค้าที่หลากหลาย เช่น Weizen และ IPA
4. การเปลี่ยนแปลงในช่องทางการขาย
- การขายผ่านช่องทางออฟไลน์ยังคงเป็นหลัก แต่การฟื้นตัวของการบริโภคในร้านอาหารและบาร์มีผลบวกต่อยอดขาย
- การบริโภคที่บ้านซึ่งเพิ่มขึ้นในช่วงโควิด เริ่มลดลงเมื่อผู้บริโภคกลับไปใช้ชีวิตนอกบ้าน
5. ข้อจำกัดทางกฎหมาย
- การควบคุมอายุขั้นต่ำสำหรับการซื้อและดื่มแอลกอฮอล์ยังคงเข้มงวด รวมถึงการห้ามโฆษณาที่ส่งเสริมการบริโภค
- การดื่มแล้วขับยังคงเป็นปัญหาสำคัญ โดยมีกฎหมายกำหนดอัตราแอลกอฮอล์ในเลือดต่ำสุด
6. ความท้าทายและโอกาส
- การค้าเครื่องดื่มเบียร์ต้มและการนำเข้าสินค้าผ่านพรมแดนยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ เนื่องจากภาษีสูง
- ผู้บริโภคมีแนวโน้มสนใจสินค้าระดับพรีเมียม เช่น คราฟต์เบียร์และไวน์หายาก รวมถึงเครื่องดื่มที่มีแคลอรีต่ำและเป็นมิตรต่อสุขภาพ
ส่วนแบ่งทางการตลาด สินค้าเบียร์
- Thai Beverage PCL ยี่ห้อ Chang ส่วนแบ่งตลาด 33.7%
- Boon Rawd Brewery Co., Ltd. ยี่ห้อ Leo ส่วนแบ่งตลาด 23.6%
และ Singha มีส่วนแบ่งตลาด 12.8% - Thai Asia Pacific Brewery ยี่ห้อ Heineken มีส่วนแบ่งตลาด 0.7%
จุดเด่นของผู้เล่นในตลาด
- Thai Beverage เน้นสร้างภาพลักษณ์ระดับประเทศ โดย Chang เป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ
- Boon Rawd Brewery เน้นครองตลาดกลุ่ม Premium ด้วย Singha และตลาด Mass ด้วย Leo
- Thai Asia Pacific Brewery ใช้ Heineken สร้างภาพลักษณ์ระดับสากลและการตลาดที่ทันสมัย
- Tawandang German Brewery เป็นผู้เล่นใหม่ที่เน้นคราฟต์เบียร์และเบียร์ที่มีเอกลักษณ์
ปัจจัยที่ส่งผลต่อแนวโน้มของการบริโภค
- พฤติกรรมผู้บริโภค: ความสนใจในคราฟต์เบียร์และเบียร์พรีเมียมที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มคนรุ่นใหม่
- การแข่งขัน: การเข้าสู่ตลาดของผู้เล่นใหม่ เช่น Carabao และ Tawandang ทำให้ตลาดมีความหลากหลายมากขึ้น
- แนวโน้มสุขภาพ: ความต้องการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่ำหรือไม่มีแอลกอฮอล์เริ่มเป็นที่นิยม
แนวโน้มของยอดขายเครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์
1. เบียร์ (Beer)
- สถานการณ์ปัจจุบัน: เป็นเครื่องดื่มที่มีการบริโภคสูงที่สุด และยังคงครองตลาดได้อย่างแข็งแกร่ง
- แนวโน้ม:
- คาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นในช่วงปี 2023-2028 ด้วยปัจจัยเสริมจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและกิจกรรมทางสังคม
- ความนิยมของคราฟต์เบียร์และเบียร์พรีเมียมจะช่วยดึงดูดผู้บริโภครุ่นใหม่ที่มองหาประสบการณ์ใหม่
- อย่างไรก็ตาม อัตราการเติบโตอาจถูกจำกัดจากการแข่งขันในตลาดและต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น
2. สุรา (Spirits)
- สถานการณ์ปัจจุบัน: เป็นตลาดใหญ่อันดับสอง เน้นสุราขาวและสุราผสม
- แนวโน้ม:
- คาดว่ายอดขายจะ ทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย เนื่องจากแนวโน้มสุขภาพที่ลดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์สูง
- แต่ยังคงเป็นที่นิยมในตลาดชนบทและกลุ่มผู้บริโภคที่ยึดติดกับราคาประหยัด
3. เครื่องดื่มพร้อมดื่ม (RTDs)
- สถานการณ์ปัจจุบัน: เติบโตในกลุ่มผู้บริโภคอายุน้อยที่ชื่นชอบความสะดวกและรสชาติหลากหลาย
- แนวโน้ม:
- การเติบโตของ RTDs จะ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีแอลกอฮอล์ต่ำและตอบโจทย์สุขภาพ เช่น แคลอรีต่ำหรือมีส่วนผสมจากธรรมชาติ
- การนำเสนอรสชาติใหม่ ๆ จะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ
4. ไวน์ (Wine)
- สถานการณ์ปัจจุบัน: เป็นตลาดขนาดเล็ก เน้นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้สูงและนักท่องเที่ยว
- แนวโน้ม:
- การเติบโตจะ จำกัด โดยความนิยมยังไม่แพร่หลายในกลุ่มคนทั่วไป
- การบริโภคอาจเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในกลุ่มลูกค้าที่ต้องการประสบการณ์พรีเมียมและการจับคู่กับอาหาร
5. ไซเดอร์/เพอร์รี่ (Cider/Perry)
- สถานการณ์ปัจจุบัน: ตลาดเล็กและยังคงอยู่ในกลุ่มเฉพาะ
- แนวโน้ม:
- การเติบโตอาจ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากการนำเสนอรสชาติใหม่และการเน้นสุขภาพ
- แต่ยังไม่สามารถแข่งขันกับเบียร์และ RTDs ได้อย่างชัดเจน
Case Study : Leo Supreme เจาะตลาดผู้บริโภคไทย ด้วยเหตุผลอะไร ?
LEO SUPREME ของ Boon Rawd Brewery ถ้าจะให้วิเคราะห์ตามความสัมพันธ์กับ รายงานของ Euro monitor นี้ มีความเกี่ยวข้องในหลายประเด็น ดังนี้:
1. แนวโน้ม Premiumisation (การมุ่งสู่ตลาดพรีเมียม)
- LEO SUPREME ถูกพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ตลาดเบียร์พรีเมียม ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการบริโภคของผู้บริโภคในรายงานที่กล่าวถึงการเติบโตของกลุ่มผลิตภัณฑ์พรีเมียม
- ผู้บริโภคในประเทศไทย โดยเฉพาะชนชั้นกลางและกลุ่มวัยรุ่นรุ่นใหม่ เริ่มมองหาเบียร์ที่มีคุณภาพสูงและยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อสินค้าที่มีภาพลักษณ์ดีและแตกต่าง
2. การตอบสนองต่อการแข่งขัน
- ในรายงานระบุว่าตลาดเบียร์ในประเทศไทยมีการแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะกับผู้เล่นรายใหญ่ เช่น Chang และแบรนด์นำเข้าอย่าง Heineken
- การเปิดตัว LEO SUPREME ช่วยให้ Boon Rawd Brewery สามารถขยายฐานลูกค้าและแข่งขันในกลุ่มตลาดพรีเมียมได้ดีขึ้น โดยยังคงรักษาฐานลูกค้าเดิมจาก Leo รุ่นปกติ
3. การสร้างนวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
- รายงานชี้ว่าแนวโน้มการบริโภคเบียร์กำลังเปลี่ยนไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์และมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ดื่ม เช่น คราฟต์เบียร์และเบียร์ที่เน้นรสชาติพิเศษ
- LEO SUPREME อาจถูกพัฒนาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์และมีความเป็นพรีเมียมมากขึ้น
4. การฟื้นตัวของกิจกรรมทางสังคม
- รายงานกล่าวถึงการฟื้นตัวของกิจกรรมทางสังคม เช่น คอนเสิร์ตและงานเทศกาล ซึ่งช่วยกระตุ้นยอดขายเบียร์
- LEO SUPREME สามารถเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดึงดูดความสนใจในกิจกรรมเหล่านี้ เนื่องจากตอบโจทย์กลุ่มที่ต้องการเบียร์ที่แตกต่างและมีภาพลักษณ์ที่ดูหรูหรา
5. โอกาสและความท้าทาย
- โอกาส: การเปิดตัว LEO SUPREME เป็นโอกาสในการขยายกลุ่มลูกค้า โดยเฉพาะผู้ที่มองหาประสบการณ์ใหม่จากเบียร์พรีเมียม
- ความท้าทาย: การแข่งขันจากแบรนด์พรีเมียมที่มีอยู่เดิม เช่น Singha, Heineken และคราฟต์เบียร์ อาจทำให้การเจาะตลาดของ LEO SUPREME ต้องเผชิญความท้าทาย
สรุป
LEO SUPREME สอดคล้องกับแนวโน้มที่ระบุในงานวิจัย โดยเฉพาะเรื่อง Premiumisation และการตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป การเปิดตัวผลิตภัณฑ์นี้น่าจะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของ Boon Rawd Brewery เพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดและขยายฐานลูกค้าในกลุ่มใหม่ ๆ ที่มีกำลังซื้อสูง
รายงานฉบับเต็มสามารถซื้อได้ที่ Euro Monitor
สามารถซื้อรายงานฉบับเต็มได้ที่นี่ Link
ถ้าต้องการสำเนาของรายงานนี้ ขอค่าอาหารแมวและเงินไปทำบุญ 1,500 บาท
Social Data หาพฤติกรรมของผู้บริโภคในประเทศไทยได้ไหม เพราะไม่สามารถโฆษณาตาม พระราชบัญญัติ ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ได้
Case Study : Data Insight ที่ได้จาก Logo ยี่ห้อของ Brand ที่ถูกกฎหมายห้ามโฆษณาเช่นเหล้าและเบียร์ อ่านต่อจาก Link นี้ได้
บทสรุปส่งท้าย 2025 ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศไทย และ แนวโน้มคนไทยที่บริโภค
พฤติกรรมผู้บริโภค: ผู้บริโภคมองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ เช่น คราฟต์เบียร์หรือเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์ และ ยังคงอยู่ในการหาทางเลือกของคนไทย สำหรับข้อมูลนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการ และ ทางเลือกในการเข้าเจาะตลาดกับกลุ่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์
พี่อ้วนสายมู
ZOCIAL EYE TRAINER
สนับสนุนโดย Carebeauwellness.com
สนใจอยากใช้ Social Listening เริ่มต้น 3,000 บาท ต่อเดือน
Link : https://idea2mobile.com/2018/wisesight_2.php
คนสนใจอยากจะทดลองใช้สอนฟรี โดยพี่อ้วน สายมู www.idea2mobile.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ที่
พี่อ้วนสายมู
www.idea2mobile.com
wisesight zocial eye trainner
Call : 0863863896