วิกฤติที่ท้าทายสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องเผชิญ ปี 2568 (2025) จากวิเคราะห์ของนักวิชาการ,นักเศรษฐศาสตร์ รวมถึงนักโหราศาสตร์หลายท่านต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า ปีนี้น่าจะทำให้การจับจ่ายใช้สอยไม่ค่อยมีสภาพคล่องมากนัก วิกฤติภาพใหญ่มีอะไรบ้าง กด Link นี้ดูก่อนได้ครับ แล้วมันมีผลต่อสินค้า Luxury เช่นเครื่องประดับอย่างไรบ้างในแง่ของกำลังซื้อยังเติบโตต่อไหม เรามาเจาะลึกจากรายงานกัน
ตลาดภาพรวมเครื่องประดับ,จิวเวลรี่ ในประเทศไทยเป็นอย่างไร ?ในปี 2023 ที่ผ่านมา
Data ข้อมูลของ เครื่องประดับ,จิวเวลรี่ Update ล่าสุดเท่าที่หาได้จะเป็นปี 2023 และ forecast พยากรณ์ไปถึงปี 2028 มีข้อมูลที่น่าสนใจหลายส่วน
Source : Euromonitor
ภาพรวมตลาดจิวเวลรี่ในประเทศไทย 2018-2023
คาดการณ์ว่ามูลค่าการขายปลีกของจิวเวลรี่จะเพิ่มจาก 68.5 พันล้านบาท ในปี 2023 เป็น 86.3 พันล้านบาท ในปี 2025 (CAGR 8.8%)
Fine Jewellery: มูลค่าเติบโตจาก 56.9 พันล้านบาท ในปี 2023 เป็น 73.2 พันล้านบาท ในปี 2025 เติบโตสูงด้วยอัตรา CAGR 9.5%
Costume Jewellery: มูลค่าเติบโตจาก 11.6 พันล้านบาท ในปี 2023 เป็น 13.1 พันล้านบาท ในปี 2025 เติบโตด้วยอัตรา CAGR 4.8%
Fine Jewellery คือสินค้าครื่องประดับที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง เช่น ทองคำ แพลตตินั่ม เพชร และอัญมณีธรรมชาติ
Costume Jewellery คือ เครื่องประดับแฟชั่นที่ผลิตจากวัสดุทั่วไป เช่น เงิน สเตนเลส และพลาสติก เน้นดีไซน์และความสวยงามมากกว่าความทนทาน
ตลาดนี้มีใครบ้างที่เป็นผู้เล่นสำคัญ
ผู้เล่นรายใหญ่:
Richemont Luxury (Thailand) Ltd (แบรนด์ Cartier): ส่วนแบ่งการตลาด 7.1% ในปี 2023
Jubilee Enterprise Plc: ส่วนแบ่งการตลาด 3.1%
Swarovski Thailand Co Ltd: ส่วนแบ่งการตลาด 1.7%
Beauty Gems Group และ Pandora (Thailand) Co Ltd: ส่วนแบ่งการตลาด 1.5% เท่า
Forecast ยอดขายการเติบโตถึงปี 2028
แนวโน้มการเติบโตเฉพาะกลุ่มเพิ่มมากขึ้นแยกตาม Distribution ซึ่งตัวเลขรายงานไม่ได้นำมาลงเพิ่มเติมจะมีใน Report ฉบับเต็ม สามารถซื้อรายงานจาก Euro monitor ได้จากเนื้อหาด้านล่าง
รายงานฉบับเต็มสามารถซื้อได้ที่ Euro Monitor
สามารถซื้อรายงานฉบับเต็มได้จาก Link นี้
สำหรับผู้ประกอบการร้านจิวเวอร์รี่ เครื่องประดับ อยากได้สำเนา ขอค่าใช้จ่าย 1,500 บาทเป็นค่าอาหารแมว และ เดินทางไปทำบุญตามโรงพยาบาลต่าง ๆ
รายงานที่จะได้รับจะมีด้วยกัน 3 Files ปี 2023 ข้อมูลจะอยู่ในรูปของ File PDF
Jewellery_in_Thailand
Jewellery_in_Thailand_Analysis
Jewellery_in_Thailand_Context
วิเคราะห์มุมมองส่วนตัวแนวทางในการทำการตลาดในประเทศไทย
การเจาะตลาด Fine Jewellery และ Costume Jewellery ในประเทศไทยสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันในแต่ละ Generation สามารถปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมและความสนใจเฉพาะกลุ่มได้ดังนี้:
1. กลุ่ม Baby Boomers (อายุ 58-76 ปี)
ลักษณะเด่น:
- เน้นคุณค่าทางการลงทุนและสินค้าที่มีความหรูหรา
- ชื่นชอบสินค้าที่มีเรื่องราวและคุณภาพที่พิสูจน์ได้
กลยุทธ์การเจาะตลาด:
- Fine Jewellery:
- สร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เชื่อถือได้ เช่น การใช้ GIA Certification สำหรับเพชร
- เน้นการออกแบบที่คลาสสิกและหรูหรา เช่น แหวนทองคำ 18K หรือสร้อยคอเพชร
- ใช้การตลาดผ่านช่องทางออฟไลน์ เช่น ร้านค้าในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ หรือบูติกเฉพาะทาง
- Costume Jewellery:
- นำเสนอเครื่องประดับเงินหรือทองคำขาวในดีไซน์ที่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
- เสนอโปรโมชั่นหรือแพ็กเกจพิเศษสำหรับโอกาสสำคัญ เช่น วันครบรอบแต่งงาน
2. กลุ่ม Gen X (อายุ 43-57 ปี)
ลักษณะเด่น:
- มีรายได้มั่นคงและชื่นชอบสินค้าคุณภาพสูง
- ต้องการเครื่องประดับที่สะท้อนสถานะและความสำเร็จ
กลยุทธ์การเจาะตลาด:
- Fine Jewellery:
- นำเสนอสินค้าที่เหมาะกับการลงทุน เช่น ต่างหูเพชรหรือกำไลทองคำแท้
- ใช้บริการ personalized design เพื่อให้ลูกค้าได้รับสินค้าที่ไม่เหมือนใคร
- สื่อสารผ่านช่องทางออฟไลน์ เช่น งานแฟร์จิวเวลรี่ หรือผ่านโซเชียลมีเดียที่เน้นภาพลักษณ์หรูหรา
- Costume Jewellery:
- เสนอสินค้าที่มีดีไซน์โมเดิร์นแต่เรียบหรู เช่น กำไลเงินประดับคริสตัล
- โปรโมตผ่านกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ เช่น งานแฟชั่นโชว์
3. กลุ่ม Millennials (Gen Y, อายุ 27-42 ปี)
ลักษณะเด่น:
- ชื่นชอบดีไซน์ที่มีความเป็นตัวเองและเน้นแฟชั่น
- นิยมสินค้าที่มีความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
กลยุทธ์การเจาะตลาด:
- Fine Jewellery:
- เสนอสินค้าที่มี Lab-Grown Diamonds เพื่อตอบโจทย์ด้านความยั่งยืนและราคาที่เข้าถึงได้
- ใช้โซเชียลมีเดีย เช่น Instagram และ TikTok ในการแสดงดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์
- นำเสนอแพ็กเกจสำหรับโอกาสพิเศษ เช่น แหวนหมั้นหรือของขวัญวันครบรอบ
- Costume Jewellery:
- นำเสนอเครื่องประดับแฟชั่นที่เปลี่ยนตามเทรนด์ เช่น สร้อยข้อมือเรซินสีสันสดใส
- โปรโมตผ่านอินฟลูเอนเซอร์และนักรีวิวบน YouTube และ TikTok
4. กลุ่ม Gen Z (อายุ 11-26 ปี)
ลักษณะเด่น:
- ชื่นชอบเครื่องประดับที่มีสีสันสดใสและดีไซน์ที่โดดเด่น
- นิยมการซื้อผ่านช่องทางออนไลน์
กลยุทธ์การเจาะตลาด:
- Fine Jewellery:
- เจาะตลาดผ่านเครื่องประดับชิ้นเล็กที่มีราคาเข้าถึงได้ เช่น แหวนทองคำขาวดีไซน์มินิมอล
- ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์และ AR/VR ให้ลูกค้าลองสินค้าเสมือนจริง
- สร้างแคมเปญใน TikTok ที่ให้ผู้ใช้แชร์วิดีโอการแต่งตัวพร้อมเครื่องประดับของแบรนด์
- Costume Jewellery:
- นำเสนอสินค้าที่มีดีไซน์สนุกสนาน เช่น ต่างหูรูปทรงเรขาคณิตหรือเครื่องประดับ DIY
- ทำการตลาดผ่านไลฟ์สดบน Facebook และ TikTok พร้อมส่วนลดพิเศษ
สรุปตัวอย่างสินค้าแต่ละกลุ่ม
Generation | Fine Jewellery | Costume Jewellery |
---|---|---|
Baby Boomers | สร้อยคอทองคำลวดลายคลาสสิก | ต่างหูเงินลายเรียบ |
Gen X | แหวนเพชรหรูพร้อม GIA Certification | กำไลเงินคริสตัลดีไซน์ทันสมัย |
Millennials | แหวน Lab-Grown Diamonds | สร้อยข้อมือเรซินแฟชั่น |
Gen Z | แหวนทองคำขาวดีไซน์มินิมอล | ต่างหูรูปทรงเรขาคณิตสีสันสดใส |
สรุปการแข่งขันตลาดเครื่องประดับ จิวเวอร์รี่ ยังมีโอกาสกับกลุ่มลูกค้าหลักไม่ว่าจะเป็นในประเทศไทยและต่างประเทศ การปรับสินค้าให้เข้ากับกลุ่ม Generation และ การใช้ช่องทาง Online ในการช่วยส่งเสริมการขายน่าจะช่วยให้สินค้าเติบโตได้
สำหรับภาพรวมข้อมูลในโลกออนไลน์เกึ่ยวกับเครื่องประดับ จิวเวอร์รี่ มในการเจาะสินค้าแต่ละ Gen และจะออกแบบ Product อย่างไรให้ตรงใจ สามารถใช้ ZOCIAL EYE ในการดูข้อมูลย้อนหลัง 3 เดือน และ Trends ความสนใจของผู้บริโภคได้ครับ หรือใครต้องการให้ทำ Report ฉบับเต็มดูตามนี้ได้ครับ <== Link // หรือแค่ซื้อ Zocial eye แล้วมาร่วมพูดคุยเพื่อหา Insight เชิงลึกกันได้เพื่อการต่อยอดทางการตลาด
พี่อ้วนวิเคราะห์ Data
สนับสนุนโดย Carebeauwellness.com
สนใจอยากใช้ Social Listening เริ่มต้น 3,000 บาท ต่อเดือน สอนฟรี
Link : https://idea2mobile.com/2018/wisesight_2.php
คนสนใจอยากจะทดลองใช้สอนฟรี โดยพี่อ้วน สายมู www.idea2mobile.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ที่
พี่อ้วนสายมู
www.idea2mobile.com
wisesight zocial eye trainner
Call : 0863863896