ประสบการณ์เรื่องราวใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ไม่ว่าการเรียนรู้จาก งานสัมมนา,การเดินทาง, การได้เห็น Lifestyle การใช้ชีวิตผู้คน สู่การเขียนบันทึกมุมมองต่าง ๆ ไว้ใน Blog ของตัวเอง คิดว่าตอนนี้เป็นนิสัยส่วนตัวไปแล้ว การได้ทบทวนความรู้ว่าเราได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมบ้างในแต่ละวัน? เรามีมุมมองประสบการณ์อะไรบ้างที่ไปพบเจอมา สามารถนำไปใช้กับงานของตัวเอง และ แบ่งปันมุมมองนี้ให้กับคนอื่นบ้างไม่มากก็น้อย เป็นเป้าหมายที่มีความสุขของคนเขียนที่ได้ถ่ายทอดออกมา การไปงาน สัมมนางาน ctc2023 นี้ก็เช่นเดียวกัน
ปล.ตั้งใจสรุปแบบถอดบทเรียนไม่อยากถอดเทป
ถ้าเป็นการแซวของตัวเอง งาน CTC ส่วนใหญ่คนมักจะถามคืองานอะไร? คุยกับคนใกล้ตัว แบบเล่นมุขขำ ๆ อาจจะเป็นงาน Capture Talk To Contents ก็ได้ เพราะเห็นแต่ละ Page ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก ยังไม่จบงาน ถอดหัวข้อเนื้อหาของวิทยากร แล้ว Post ใน Time Line Feed กันหมดแล้ว
บัตรไม่ฟรี แล้ว ทำไมถึงไปงาน?
ขอบคุณทาง Sponser จากบูธ TIDTOR โดยคุณ Suppakorn Bunchua CEO ซื้อบัตรเข้างานให้ เพราะถ้าซื้อบัตรเองคงไม่ได้ไป อาจจะใช้คำของ จีซู วง Blackpink ก็ได้ว่า ไม่มีตังค์ครับ พร้อมทั้งมอบหนังสือมาให้อีก 1 เล่มไว้ให้ผมทำ Podcast เล่าเรื่องผ่าน YouTube ตัวเอง
สิ่งที่คาดหวังจากการมางานในครั้งนี้
บัตรมีราคาการเดินทางมีค่าใช้จ่าย การเข้าเลือกฟังเนื้อหาแต่ละ Sessions คือ เป้าหมายหลัก ผมจะให้น้ำหนักไปประมาณ 3 หัวข้อ ที่จะเลือกเข้าฟัง (ส่วนหัวข้อที่ไม่ได้เข้าฟัง จะไปดูย้อนหลังแทน)
3 หัวข้อในเป้าหมายตัวเองที่ต้องได้หลังจากเข้าไปฟังแต่ละ Session
- New Eductations คือ ความรู้ที่ต้องติดตาม และ เป็นความรู้ที่ต้องการ?
- Experience ประสบการณ์ Case Study มุมมองในการแก้ปัญหา?
- Opportunity โอกาสใหม่ ๆ ในการตลาด,กลุ่มเป้าหมายที่เราควรจะศึกษามากขึ้น?
1.New Educations ? อะไรคือสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ และ จะต้องรู้ให้มากขึ้น?
ส่วนตัวจะติดตาม Technology และ ข่าวสาร Update ในช่องทาง Social Network สม่ำเสมออยู่แล้ว แล้ว ความรู้ใหม่ ๆ ที่แตกต่าง
New Educations ในงานนี้ถอดบทเรียนสรุปทั้งหมดก็จะประมาณนี้
A.I + Automation + Fist-Party Data + No Code + 3rd Data + CRM และการกลยุทธ์รักษาลูกค้าเก่า + การหาลูกค้าใหม่
การมาของ Generative A.I. ไม่ว่าจะเป็น Text to Text , Text to Images Text to Video หรือ การนำ A.I. เข้ามาช่วยเขียน Coding ในฝั่ง Programing และการประยุกต์นำไปใช้งาน เข้ามาช่วยเพิ่ม Productivity ขององค์กร,การกังวลกับการที่ A.I. มาแย่งอาชีพคน , และโอกาสต่าง ๆ ในการนำ A.I. เข้ามาช่วยในองค์กร สู่หลากหลายหัวข้อของวิทยากรแต่ละบริษัท นำมาขยายความทั้ง 3 วันที่เกิดขึ้น และ จะมีวิทยากรจากหลายหลายบริษัท ที่นำ A.I เข้ามาในสินค้าและบริการ แล้วขยายความว่านำ A.I. เข้าไปช่วยได้อย่างไร?
1.1.First-Party Data ทุกห้องที่เข้าฟังจะให้ความสำคัญมากเป็นอันดับแรก ๆ
The ‘Cookieless การไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวจาก Privacy ต่าง ๆ หลายองค์กรที่ให้บริการในแต่ละ Platform ต่าง ๆ เข้าใจลูกค้าว่าจะต้องจ่ายค่าโฆษณาในการยิง Ads แพงขึ้น จึงให้ความสำคัญกับ First-Party Data ซึ่งหัวข้อนี้เพิ่งเขียนไป ในหัวข้อ The future of ads platform #CTC2023 สามารถดู Blog ย้อนหลังได้ เพราะตอนนี้สวมหมวก ช่วย SMEs อยู่ เลยเขียนบทความนี้ยาวหน่อย
1.2.Customer Retentions การรักษาลูกค้าเก่า ใช้ต้นทุนน้อยกว่าหาลูกค้าใหม่
การรักษาลูกค้าเก่า ใช้ต้นทุนน้อยกว่าการหาลูกค้าใหม่ เป็นจริงเสมอในการทำการตลาด การเข้ามาฟังใน Sessions นี้ อยากได้กลยุทธ์ต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อการดึงลูกค้าให้อยู่กับเรามากที่สุด ซึ่งอาจจะมีศัพท์เทคนิค เช่น
Acquisition กลยุทธ์การอยู่กับลูกค้า หาลูกค้าใหม่ต่าง ๆ
Loyalty กิจกรรมต่าง ๆที่เราควรจะทำกับลูกค้า
At-Risk/ Churn ลูกค้าที่มีความเสี่ยงไปกับเราแล้ว
Case Study จากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นของ airbnb, Dropbox , Tesla เป็นกลยุทธ์ในการแนะนำบอกต่อ,การหาลูกค้าใหม่ การให้คะแนนและของรางวัลสะสมกับลูกค้าที่เข้ามาเป็นส่วนร่วมที่อยู่กับเรา เป็นกลยุทธ์ที่ใช้กันและได้ผลลัพธ์ที่ดีมากในการหาลูกค้าใหม่
Loyalty การให้ความสำคัญกับ Personalization ของแต่ละบุคคล เช่น ชื่อเขียนผ่านถ้วยกาแฟ เช่น Campaign บริษัทดัง ๆ อย่าง Starbuck ทำให้คนส่วนใหญ่ชื่นชอบในความใส่ใจของ Brands ผ่านกิจกรรมดังกล่าว
Churn ส่วนลูกค้า ที่มีความเสี่ยงที่เริ่มจะตีจากทางบริษัท ฯ ก็นำ Framework เข้ามาช่วยบริหารจัดการต่อไปได้ มีทั้งลดราคา, การให้ของรางวัล หรือ แลกคะแนนให้ Point ต่าง ๆ เพื่อรักษาหรือเปลี่ยนใจให้ลูกค้าอยู่กับเรานานขึ้น
ที่ชอบอีกอย่างนึงคือ เครื่องมือ Email Marketing หรือ EDM ยังเป็นอีกเครื่องมือนึงที่ทำให้ Retentions กับลูกค้า โดยมีสัดส่วนกลับมาเพิ่มขึ้น
หลายองค์กร อาจจะลืมเครื่องมือนี้ไปแล้ว
2.Experience ประสบการณ์ Case Study มุมมองในการแก้ปัญหา?
มุมมองต่อไปที่อยากจะได้เพิ่มเติมคือ ประสบการณ์ Case Study และการนำไปประยุกต์ต่อยอดใช้งานจริง จึงมองหาใน Session ที่เกี่ยวข้อง กับ A.I. เป็นหลักในงานจะมีหัวข้อที่พูดถึง A.I. เยอะมากแต่ชอบหัวข้อนี้ที่สุดการนำ A.I มาประยุกต์ใช้กับงาน Creative และ จุดที่ต้อง Concern เกี่ยวกับการนำ A.I. มาใช้ในงานทางด้านธุรกิจ
2.1.การนำ A.I. เข้ามาช่วยในงาน Creative ลดเวลาเพิ่ม Productivity
เราเรียนรู้อะไรบ้างก่อนที่จะมางานนี้ สำหรับการมาของ Generative A.I. ไม่ว่าจะมีบริการจาก ChatGPT, Midjourney,Stablediffusion,Bard,Canva หรือ อื่น ๆ จากวิทยากรที่มีประสบการณ์มาเล่า ต่อยอดความคิดที่มีมาก่อนอยู่แล้ว ให้เราต่อยอดแล้วเห็นโอกาสในอนาคตได้ชัดเจนมากขึ้นไปอีก เช่น
A.Corporate เริ่มนำภาพจาก A.I มาใช้ในการสื่อสารธุรกิจหลายรายแล้ว
Corporate หลายบริษัทฯ ทำภาพสื่อสารออกมา เช่นภาพในการเลือกตั้งที่ผ่านมา จะใช้ภาพ จาก A.I. มาประกอบ Key Visual แทนจาก Stock Photo มากขึ้น รวมถึงงานของทีมงาน Creative จะออกแบบงานจาก A.I. ให้มีหลากหลายมิติมากขึ้น เช่น การใช้ A.I. ให้ Generate ภาพจากภาพเดิมที่มีอยู่
Case Study : ให้ A.I. ทำภาพที่นอกกรอบ การมี A.I. ช่วยทำให้งาน Creative นั้นขยายความคิดได้อย่างรวดเร็ว จาก Ideas นี้ ทำให้รู้สึกว่าภาพที่มีอยู่แล้วสร้างสรรค์งานได้อีกมากเลยในอนาคต
- การเคลม A.I ยังไม่ได้ถือว่าเป็นลิขสิทธิ์ของเรา // การทำให้มีลิขสิทธิ์ ใส่ Text ภาพ ให้มี ผลงานจากมนุษย์เข้าไป
- การประยุกต์ใช้ A.I. ในมุมมอง Corporate จะได้เห็น Chatbot ที่ไม่ใช่ Chat ธรรมดา แต่จะเป็นการคุยที่ฉลาดมากขึ้นโดยมี A.I. อยู่เบื้องหลังของการทำงาน
- ไม่ต้องกลัวว่า A.I. มาแทนที่ เราควรจะคิดวางแผน แล้วให้ A.I. อยู่ในการทำงานของเรา
2.2. (ไม่อยู่ในเป้าหมาย) แต่เป็นหัวข้อที่ชอบที่สุด “การหาแรงบันดาลใจ ระหว่างแรงผลักดันกับผลกำไร”
Profit กำไรคือเป้าหมายของธุรกิจ สิ่งที่ทุกคนอยากได้ เมื่อถึงจุด ๆ นึงทำไมมันว่างเปล่า Passion แรงผลักดันก็ทำให้ถึงจุดกำไรทำไมถึงไม่อยากทำต่อ
ในการเข้าฟังของแต่ละหัวข้อ มาชอบหัวข้อนี้ของ อจ.เกตุวดี Marumura มากที่สุดการเล่าเรื่อง ระหว่าง passion และ profit ของ Case Study จากคนญี่ปุ่น สู่ความสุขของคนส่วนใหญ่ ที่บอกได้ถึงว่า Passion กับผลกำไร ทำอย่างไรจะสามารถไปด้วยกันได้แบบมีความสุข
มีหลาย Case Study ทำกำไรแล้วไม่มีความสุข จึงต้องหา Passion ใหม่
การทำ Passions เพื่อคนอื่น จะทำให้ Passion นั้นอยู่กับเรานาน
สรุปมาเป็นหลายหัวข้อใน Slide หน้านี้ ที่ชอบมาก
3. Opportunity โอกาสใหม่ ๆ ในการตลาด หัวข้อสุดท้ายละ
หลาย Sessions ทั้งเช้าและบ่าย นอกจาก A.I. Technology การใช้ Martech เก็บข้อมูลลูกค้า ,เรียนรู้ทำความเข้าใจลูกค้า,การใช้ CRM รักษาฐานเก่า และ การหาลูกค้าใหม่ รวมถึงโอกาสใหม่ ๆ ของธุรกิจ คืออีกเรื่องนึงที่สำคัญของงานนี้
Opportunity ของ Gen Z ก็เป็นอีก Highlight ของงานนี้ถ่ายทอดโดย
ทาง อจ.หนุ่ย ของ Page การตลาดวันละตอน ซึ่งอธิบาย Gen Z ตั้งแต่เกิด,การใช้ชีวิต,การเรียน,การทำงาน, รวมถึงการแสดงความคิดเห็นในแง่มุมต่าง ๆ สู่การถ่ายทอดเรื่องราวที่น่าสนใจมากมาย
เนื้อหาใน Slide ถูกถ่ายทอดออกไปที่หลายเพจ : สามารถติดตามได้ใน Facebook เช่น Future Trends , Content shifu แต่เรื่องราวไอเดียที่เป็นมุมมองส่วนตัวขอจดบันทึกในมุมมองที่นำไปต่อยอดทางการตลาดกับกลุ่มเป้าหมายใน Gen Z นี้กับสินค้าในอนาคตที่จะต้องปรับตัวเข้าหา
Marketing of Gen Z : ไม่เหมือนกับ Baby Boomer, Gen X , Gen Y ที่ผ่านมาทั้ง ความคิด,การใช้ชีวิต และเป้าหมายในอนาคต แล้วทำไม Gen Z ถึงสำคัญในปัจจุบันมาก
- ตลาดแรงงานต่อจากนี้ไป จะเป็นของกลุ่มคน Gen Z จะเข้ามาแทนที่ Gen Y ส่วน Gen X รอวันเกษียณแล้ว
- การขับเคลื่อนเศรษฐกิจกำลังซื้อของคน Gen Z คือกำลังซื้อที่มีมหาศาล
ธุรกิจที่ปรับตัวเข้ากับ Gen Z ได้ก่อนคือความได้เปรียบ แต่การจะเข้าใจ Gen Z ได้ต้องเข้าใจภาพรวมก่อน ภาพรวมของ Gen Z ตอนนี้คือ อายุ 11-26 ปี
เก็บตก Insight หัวข้อบางส่วนที่คิดว่าสำคัญ สำหรับ Generation Z
- เกิดมาในช่วงปัญหาทางเศรษฐกิจ Subprime และ เศรษฐกิจยุคใหม่ทางการเงิน
- ของแพง,การครอบครองทรัพย์สินเป็นอะไรที่ยากมาก
- ต้องมาเรียนออนไลน์ ในช่วง Covid-19 ที่ระบาด
- อยู่กับ เทคโนโลยีตั้งแต่เกิดเข้าใจเรื่องนวัตกรรมใหม่ ๆ
- สินค้าในเชิงธุรกิจ เช่น การกู้ยืมเงิน เป็นเรื่องปกติที่ Gen Z ที่ทำกัน
- Gen Z เลือกทำงานกับความมั่งคั่ง ไม่ใช่ความมั่นคงเพราะทางเลือกมีโอกาสมาก
- ทางเลือกของคน Gen Z คือเรียนเพื่อทำงาน เช่น การขายของออนไลน์,การเป็นตัวตนทาง Influencer , การทำ Content Writer หรือ งานต่าง ๆ ทางด้านออนไลน์มีความเป็นเสรีทางความคิด
- Gen Z ในการทำงานเคารพคนที่ควรเคารพ และ พร้อมที่จะลาออกตลอดเวลาและเลือกสวัสดิการที่ดี
- เราจะพบ Gen Z ในการทำธุรกิจทางด้านออนไลน์ มี Inspiration เงินแสนแรก ,ล้านแรก คือ เป้าหมายของคน Gen Z
- Gen Z เป็นโรคซึมเศร้า,เพราะอยู่กับ Social Network ตลอดเวลา
- Gen Z สื่อสารเฉพาะกลุ่ม ชอบ App ไม่เก็บประวัติและสื่อสารด้วยข้อความเข้าใจกันเอง
- Gen Z ยอมรับในความแตกต่างเรื่องเพศ ไม่มีปัญหาทางด้านสังคม
ธุรกิจเราควรจะปรับตัวเข้าหา Gen Z อย่างไร?
เป็นคำถามหลังจากที่ได้ Insight ในงานสัมมนา มองได้หลายมุมมาก ถ้าเป็นองค์กรการจ้างงานของคน Gen Z การให้สวัสดิการ,การปกครองคน และดูแลคน Gen Z นี้ ต้องเข้าใจเป็นพิเศษ ถึงจะรักษาคน Gen นี้ให้อยู่กับองค์กรได้นาน
มุมมองของผมเองแล้ว การทำการตลาดเข้ากับคน Gen Z
- จริงใจให้บริการดีกว่าครับกับกลุ่มคน Gen Z นี้เพราะเขาสามารถ แบนสินค้าเราได้ เป็นวงกว้าง ถ้าเราให้บริการแบบมีความซ่อนเงื่อน
- ให้ความหลากหลายทางความคิด ไม่จำเป็นต้องตัดสินว่าถูกหรือผิด
- ให้กำลังใจ ส่งเสริม น่าจะได้รับ Feedback ที่ดีจากคนกลุ่มนี้
เป็นบทสรุปถอดบทเรียน จาก Session ที่ได้เข้าไปฟังสด และ บันทึกแนวความคิดต่าง ๆในมุมมองของตัวเอง ที่ได้ไปงาน CTC 2023 ยังคงเหลืออีกหลาย Sessions อาจจะมาดูใน Online ย้อนหลังแล้วจะดูว่ามีอะไรที่น่าจะสรุปออกมาในแนวทางของตัวเองได้อีกหรือไม่
ขอบคุณผู้สนับสนุนบัตรจาก Suppakorn Bunchua ผู้ซื้อบัตรเข้าไปในงานให้
ขอบคุณผู้สนับสนุนจาก Carebeau ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเส้นผม หาซื้อได้ใน Link นี้ https://carebeau.com/
สนับสนุนสินค้าตลาดสายมู https://shop.idea2mobile.com/
ขอบคุณสำหรับคนที่ติดตามความรู้จาก Blog นี้
พี่อ้วนสายมู