2025 Data แนวโน้มธุรกิจร้านนวด & ร้านสปา และโอกาสใหม่ ของสินค้าในธุรกิจดังกล่าว

Table of Contents

ภาพรวมแนวโน้มการเติบโตของร้านนวดและร้านสปาในประเทศไทย

2025 การเติบโตของวิชาชีพ ในสถาบันการสอนนวด และ การเปิดธุรกิจทางด้านร้านสปาแนวโน้มเติบโตขึ้น จากปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทย เริ่มขาดสภาพคล่อง สินค้าจีนเข้ามาตีตลาด ผู้ประกอบการไม่สามารถไปสู้แข่งขันทางด้านราคาได้ การเข้ามาของ A.I. เทคโนโลยี ทำให้เกิดการใช้เทคโนโลยีทดแทนด้วยบุคลากร การถูกเลิกจ้างพนักงานในช่วงปลายปี 2024 ที่ผ่านมามีมากกว่าหลายหมื่นคน ส่งผลให้ปี 2025 แรงงานส่วนใหญ่กลับมาประกอบอาชีพ,วิชาชีพเพิ่มขึ้น เช่น การไปเป็นหมอนวดมีแนวโน้มอัตราเพิ่มขึ้น เนื่องจากใช้เงินลงทุนน้อยเมื่อเทียบกับการเริ่มต้นธุรกิจอื่นๆ รวมถึงธุรกิจของสปา และ ร้านนวดก็มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นโดยตลอด

การกระจายตัวของธุรกิจนวดในแต่ละภูมิภาคโตขึ้น

ข้อมูลสถิติของสมาคมสปาไทย บ่งชี้ถึงการกระจายตัวของธุรกิจนวดและสปาทั่วประเทศ ซึ่งแบ่งตามภูมิภาคได้ดังนี้:

ภาคกลาง: 7,502 แห่ง – ภาคกลางเป็นพื้นที่ที่มีจำนวนธุรกิจนวดมากที่สุด ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ทำให้มีศักยภาพสูงในการขยายธุรกิจ
ภาคใต้: 3,902 แห่ง – ด้วยชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและชายหาดที่สวยงาม ภาคใต้เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการผ่อนคลายและฟื้นฟูสุขภาพ
ภาคอีสาน: 2,292 แห่ง – ภูมิภาคนี้มีการเติบโตของธุรกิจนวดอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
ภาคตะวันออก: 1,983 แห่ง (EEC: 1,738 แห่ง) – ในพื้นที่ EEC หรือเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก มีธุรกิจนวดกระจุกตัวอยู่มาก เนื่องจากมีการลงทุนด้านการท่องเที่ยวและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
ภาคเหนือ: 1,861 แห่ง – ภาคเหนือเป็นอีกพื้นที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องของการผ่อนคลายและการฟื้นฟูสุขภาพ
ภาคตะวันตก: 124 แห่ง – แม้ว่าจำนวนธุรกิจนวดจะน้อย แต่ก็มีโอกาสในการเติบโตตามการพัฒนาในด้านการท่องเที่ยวและบริการสุขภาพ

2024 ไปยังปี 2025 เพิ่มขึ้น 7 Kกว่าร้านค้า

แนวโน้มมีการเปิดเพิ่มขึ้นจากปี 2023 เกือบ 7,000 แห่ง คิดว่าปี 2025 ก็คงยังเปิดเพิ่มอีก

ข้อสังเกตและแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นในปี 2025:

การเพิ่มจำนวนหมอนวดและสปา
- คนตกงานจากอุตสาหกรรมอื่นอาจหันมาอบรมและเริ่มต้นอาชีพในสายนี้มากขึ้น เพราะมีการอบรมระยะสั้นที่ช่วยให้เริ่มต้นอาชีพได้เร็ว
- จำนวนหมอนวดในพื้นที่ต่างจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยว เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต และชลบุรี อาจเพิ่มขึ้นอย่างมาก
การเติบโตในตลาด EEC (Eastern Economic Corridor)
- จากข้อมูล EEC มีอัตราการเติบโตสูงถึง 234% ในปี 2024 และยังมีโอกาสเติบโตต่อไปเนื่องจากโครงการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาค
ความต้องการบริการด้านสุขภาพ
- ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพและการฟื้นฟูร่างกายจากความเครียด ทำให้ธุรกิจนวดและสปาเน้นให้บริการแบบองค์รวมมากขึ้น เช่น นวดบำบัด นวดแก้ออฟฟิศซินโดรม หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก
ความเสี่ยงจากกำลังซื้อที่ลดลง
- หากเศรษฐกิจยังคงซบเซา กำลังซื้อของผู้บริโภคอาจลดลง ส่งผลให้ธุรกิจนวดและสปาต้องปรับกลยุทธ์ เช่น การจัดโปรโมชันราคาพิเศษ หรือการเพิ่มบริการใหม่ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้า
การแข่งขันในตลาดสูงขึ้น
- ด้วยจำนวนหมอนวดและร้านสปาที่เพิ่มขึ้น การแข่งขันจะสูงขึ้น ธุรกิจขนาดเล็กอาจประสบความยากลำบากในการรักษาฐานลูกค้า

Collaborate (Colob) สินค้าอะไรบ้างที่ควรจะเข้าไปที่ร้านนวด

(ออกไปสำรวจตลาด) กำลังซื้อของคนมาใช้บริการการนวด ยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับคนไทย การนวด คอ บ่า ไหล่ จากการอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นหลัก คือลูกค้าจะหมุนเวียนกันมาสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง การไปร้านนวด ต่อคิวจองหมอนวดเป็นเรื่องปกติ และ ตอนนี้หมอนวดผู้ชายกลับมาได้รับความนิยมมากกว่า หมอนวดแผนไทยที่เป็นคุณป้า และ ผู้หญิง

1. ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลผิวและสุขภาพ

สินค้าประเภทที่เจาะจงกับการนวดโดยตรงได้โดยตรงหรือเสริมความประทับใจให้ลูกค้า

น้ำมันนวด: น้ำมันหอมระเหย หรือน้ำมันนวดที่มีส่วนผสมออร์แกนิกหรือสารสกัดธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันงา หรือน้ำมันจากสมุนไพรไทย

สครับผิว: สครับที่ร้านนวดสามารถใช้บริการเสริม เช่น สครับขัดผิว ก่อนหรือหลังนวด พร้อมให้ลูกค้าซื้อกลับไปใช้เอง

ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า: เช่น ครีมมาสก์หน้า หรือครีมนวดหน้า เพื่อช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับการดูแลแบบครบวงจร

2. สินค้าสร้างประสบการณ์

สินค้ากลุ่มนี้ช่วยเพิ่มมูลค่าให้บริการนวดและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า

ชุดอโรมาเธอราพี: เช่น เทียนหอม ก้านไม้หอม น้ำมันหอมระเหย ที่ใช้สร้างบรรยากาศในร้านนวด และขายให้ลูกค้านำกลับไปใช้ที่บ้าน
หมอนประคบร้อนสมุนไพร: สำหรับบรรเทาอาการปวดเมื่อยหลังการนวด เป็นสินค้าที่ลูกค้านิยมซื้อกลับบ้าน
ชาเพื่อสุขภาพ: เช่น ชาสมุนไพร หรือชาจากพืชท้องถิ่นที่ช่วยผ่อนคลายหลังนวด สามารถเสิร์ฟฟรีและขายเป็นแพ็กเกจ

3. สินค้าแฟชั่นและของใช้ส่วนตัวที่เน้นสุขภาพ

ช่วยเพิ่มรายได้เสริมจากกลุ่มลูกค้าที่มารับบริการ

เสื้อผ้าลำลองสไตล์ไทยหรือชุดผ้าฝ้าย: สำหรับใส่หลังนวดหรือใส่ในวันพักผ่อน
อุปกรณ์โยคะหรือฟิตเนส: เช่น เสื่อโยคะ หรือที่นวดกดจุดขนาดพกพา สำหรับลูกค้าที่สนใจสุขภาพโดยรวม
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร: เช่น วิตามินเพื่อสุขภาพหรือสมุนไพรเพื่อบำรุงร่างกาย

ข้อมูลใน Social Data ก็สำคัญไม่แพ้กัน

ร้านนวดส่วนใหญ่ จะอยู่ใน Platform X และ Instagram
บริการนวดก็มีหลากหลาย ทั้งแนะนำสถานที่นวดในร้าน และ การนวดตามบ้าน ซึ่งสินค้าที่นำไปนวดก็เป็นสินค้าเดียวกันกับทางร้าน

Source : Zocial Eye

รายชื่อลูกค้าร้านนวด X กับการนำเสนอสินค้า ง่ายด้วยปลายนิ้ว

และการใช้ Facebook Group เป็นอีก Channel นึงที่ให้ความน่าสนใจ ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่มการเข้าถึงกับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อได้ น่าจะช่วยให้ Brand สินค้า มีลูกค้าใหม่ได้อย่างไม่ยาก

สรุปในปี 2025 การมอง Target Group ร้านนวดและร้านสปา และ สินค้าที่ทำไว้สำหรับร้านนวดและร้านสปา มี Power of Purchase ก็เป็นอีกช่องทางนึงที่น่าสนใจสำหรับการประกอบธุรกิจในปีนี้

พี่อ้วนสายมู

สนับสนุนโดย Carebeauwellness.com