2025 สินค้าหมวด Personal Luxury ยังมีอิทธิพลต่อการซื้อของคนไทยในปีนี้มากน้อยขนาดไหน?

2025 สินค้าหมวด Personal Luxury ยังมีอิทธิพลต่อการซื้อของคนไทยในปีนี้มากน้อยขนาดไหน?

ข้อมูลการเติบโตของตลาด Personal Luxury in Thailand ตลาดสินค้าหรูในประเทศไทยปี 2024 ข้อมูลจาก Euro monitor ในเดือน Oct 2024 มีตัวเลขที่น่าสนใจในการจับจ่ายใช้สอยของคนไทย ที่มีต่อความนิยม Brand Name ในกลุ่ม Personal Luxury มีแนวโน้มอย่างไรต่อในปี 2025

Table of Contents

ภาพรวมของตลาดสินค้าหรูในประเทศไทย เดือนตุลาคม 2024

Source : Euro monitor

1. ภาพรวมตลาดสินค้าหรูในประเทศไทยปี 2024

  • มูลค่าการขายปลีกสินค้า Personal Luxury เพิ่มขึ้น 6% อยู่ที่ 83.8 พันล้านบาท
  • หมวดที่เติบโตมากที่สุดคือ Super Premium Beauty and Personal Care (เพิ่มขึ้น 9% อยู่ที่ 13 พันล้านบาท)
  • คาดการณ์มูลค่าการขายปลีกจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 7% และอาจแตะที่ 128 พันล้านบาทภายในปี 2029

2. สินค้าและพฤติกรรมผู้บริโภค

2.1 เสื้อผ้าและรองเท้าดีไซเนอร์

  • การขายเพิ่มขึ้นหลังการระบาดของโควิด-19 เนื่องจากลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าผ่านหน้าร้านเพื่อสัมผัสสินค้าโดยตรง
  • มีการนำ e-commerce และการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการขาย

2.2 แว่นตาหรู

  • แม้การเดินทางจะกลับมา แต่กลุ่มลูกค้าบางส่วนยังระมัดระวังการใช้จ่าย
  • แบรนด์ Kering SA ครองตลาดด้วยส่วนแบ่งการตลาด 32%

2.3 เครื่องประดับหรู

  • การซื้อของขวัญให้ตัวเองเพิ่มขึ้น เช่น เครื่องประดับ fine jewellery
  • การใช้ผู้มีชื่อเสียงในท้องถิ่นช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ เช่น Cartier, Swarovski และ Tiffany & Co.

2.4 กระเป๋าและสินค้าเครื่องหนัง

  • แบรนด์ดังอย่าง LVMH และ Hermès มีบทบาทเด่นในตลาด
  • แนวโน้มการซื้อเน้นที่คุณค่าในการลงทุนและสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

2.5 นาฬิกาหรู

  • กลุ่มลูกค้าให้ความสนใจนาฬิกามือสอง เนื่องจากราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและความหายากของรุ่นใหม่

2.6 สินค้าความงามระดับซูเปอร์พรีเมียม

  • มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าหนุ่มสาวที่ชื่นชอบการทดลองสินค้าใหม่ผ่าน AR/VR

Source : Euro monitor

Brand อะไรที่โดดเด่นในการทำการตลาดสินค้าในประเทศไทย ในปี 2024

1. Chanel (Thailand) Ltd

  • ผลิตภัณฑ์เด่น: Skincare และ Makeup ระดับซูเปอร์พรีเมียม เช่น Chanel Sublimage และ Rouge Coco
  • กลยุทธ์:
    • เน้นสร้างแบรนด์ลักชัวรีผ่านบรรจุภัณฑ์หรูหรา
    • จัดกิจกรรมโปรโมชันเฉพาะกลุ่ม เช่น Pop-Up Store
    • สร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้าผ่านโซเชียลมีเดีย

2. Elca (Thailand) Co., Ltd (ในเครือ Estée Lauder Companies)

  • ผลิตภัณฑ์เด่น:
    • La Mer: Skincare ที่โดดเด่นเรื่องส่วนผสมระดับไฮเอนด์
    • Bobbi Brown และ Jo Malone London: กลุ่มสินค้า Makeup และ Fragrance
  • กลยุทธ์:
    • จัดจำหน่ายผ่านร้านค้าในห้างสรรพสินค้าระดับพรีเมียม เช่น สยามพารากอน และเซ็นทรัลเอ็มบาสซี
    • ใช้เซเลบริตี้และอินฟลูเอนเซอร์ในการโปรโมตสินค้า

3. L’Oréal Thailand Co., Ltd

  • ผลิตภัณฑ์เด่น:
    • Lancôme: สกินแคร์และเมกอัพ เช่น Advanced Génifique Serum
    • Kiehl’s: ผลิตภัณฑ์ที่เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ
  • กลยุทธ์:
    • มุ่งเน้นการตลาดแบบ Omnichannel โดยรวมช่องทางออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน
    • เปิดตัวนวัตกรรม เช่น AR/VR ให้ผู้บริโภคทดลองสินค้า

4. Richemont Luxury (Thailand) Ltd

  • ผลิตภัณฑ์เด่น:
    • Cartier Parfums: น้ำหอมระดับลักชัวรี
    • Van Cleef & Arpels: น้ำหอมและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • กลยุทธ์:
    • ใช้กลยุทธ์ Brand Collaboration เช่น ร่วมมือกับศิลปินไทยในการออกแบบผลิตภัณฑ์พิเศษ
    • เน้นสร้างประสบการณ์พิเศษในร้านค้า

5. Shiseido (Thailand) Co., Ltd

  • ผลิตภัณฑ์เด่น:
    • Clé de Peau Beauté: Skincare และ Makeup ระดับพรีเมียม
    • Shiseido: สกินแคร์ที่ผสานเทคโนโลยีญี่ปุ่น
  • กลยุทธ์:
    • ใช้เทคโนโลยี AR และ AI วิเคราะห์สภาพผิวเพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์
    • จัดกิจกรรมพิเศษในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เช่น โซน Experience Booth

6. AmorePacific (Thailand) Co., Ltd

  • ผลิตภัณฑ์เด่น:
    • Sulwhasoo: สกินแคร์พรีเมียมที่ใช้สมุนไพรเกาหลี
    • Hera: Makeup และ Fragrance ที่โดดเด่นในกลุ่มคนรุ่นใหม่
  • กลยุทธ์:
    • โปรโมชันผ่านเซเลบและอินฟลูเอนเซอร์
    • ขยายช่องทาง e-commerce บนแพลตฟอร์มอย่าง Lazada และ Shopee

แนวโน้มการเติบโตในอีก 5 ปีข้างหน้าเป็นอย่างไร?

Source : Euro monitor

1. แนวโน้มการเติบโตโดยรวม

  • มูลค่าตลาดสินค้า Personal Luxury คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 83.8 พันล้านบาท ในปี 2024 เป็น 116.3 พันล้านบาท ในปี 2029
  • อัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) อยู่ที่ 6.8% ต่อปี

2. พฤติกรรมการซื้อของคนไทย

แนวโน้มที่สนับสนุนการซื้อเพิ่มขึ้น:

  1. การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ:
    • หลังการระบาดของโควิด-19 คนไทยกลับมามีกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้ปานกลางถึงสูง
    • การเติบโตของกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Millennials และ Gen Z) ที่นิยมสินค้าหรูและใช้จ่ายเพื่อสร้างภาพลักษณ์
  2. การเข้าถึงสินค้าที่ง่ายขึ้น:
    • ช่องทาง e-commerce และการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียทำให้คนไทยสามารถซื้อสินค้าหรูได้สะดวก ไม่ว่าจะอยู่ในเมืองใหญ่หรือพื้นที่ต่างจังหวัด
    • การพัฒนาเทคโนโลยี AR/VR และ Virtual Try-On กระตุ้นความสนใจและความสะดวกในการตัดสินใจซื้อ
  3. ความนิยมในสินค้า Sustainable และ Ethical Luxury:
    • คนไทยให้ความสำคัญกับสินค้าที่มีความยั่งยืน เช่น กระเป๋าไร้หนังสัตว์หรือสกินแคร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
    • แบรนด์ที่มีจริยธรรมชัดเจนจะได้รับความนิยมมากขึ้น

รายงานฉบับเต็มสามารถซื้อได้ที่ Euro Monitor

สามารถซื้อรายงานฉบับเต็มได้ที่นี่ Link

สำหรับผู้ประกอบ SMEs และ บริษัทต่างๆ อยากได้สำเนา ขอค่าใช้จ่าย 1,500 บาทเป็นค่าอาหารแมว และ เดินทางไปทำบุญตามโรงพยาบาลต่าง ๆ นะครับ

สรุป สินค้าในหมวด Personal Luxury สำหรับคนที่มีกำลังซื้อในประเทศไทย ยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้น เกือบ 7% ต่อปี ใครวาง Positions กับ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายกลุ่มนี้คงต้องวางแผนเรื่อง Personalization ให้ตรงเป็นอย่างดีน่าจะรักษาฐานลูกค้า และ เพิ่มลูกค้าใหม่ได้ไม่ยากนัก

พี่อ้วนสายมู

รับติดตาม Monitor Brand และ คู่แข่งทางการค้าข้อมูล Online และ Research offline

สนใจอยากใช้ Social Listening เริ่มต้น 3,000 บาท ต่อเดือน 

สั่งซื้อได้ที่ Link : https://idea2mobile.com/2018/wisesight_2.php

คนสนใจอยากจะทดลองใช้สอนฟรี โดยพี่อ้วน สายมู www.idea2mobile.com

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ที่
พี่อ้วนสายมู
www.idea2mobile.com
wisesight zocial eye trainner
Call : 0863863896