5 Trends Luxury 2025 ซึ่งนักการตลาดและเจ้าของแบรนด์ในไทยไม่ควรมองข้าม

5 Trends Luxury 2025 ซึ่งนักการตลาดและเจ้าของแบรนด์ในไทยไม่ควรมองข้าม

อุตสาหกรรมสินค้าลักชัวรีทั่วโลก Luxury กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญจากยุคแห่งความหรูหราสู่ยุคที่ผู้บริโภคต้องการ “ประสบการณ์” “ความยั่งยืน” และ “การแสดงตัวตน” ผ่านแบรนด์ที่พวกเขาเลือกใช้

รายงาน “Top Five Trends in Luxury Goods” โดย Euromonitor International ปีล่าสุด 2024 สามารถซื้อได้ที่ Link นี้

5 Trends Luxury ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง?

เทรนด์ที่ 1: การเติบโตของ “Quiet Luxury” – หรูแบบไม่โอ้อวด

ผู้บริโภครุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen Z และ Millennials กำลังเบนความสนใจจากแบรนด์ที่อวดความหรูหราอย่างเด่นชัด มาสู่ “Quiet Luxury” หรือความหรูหราที่เรียบง่าย ดูแพงโดยไม่จำเป็นต้องมีโลโก้ใหญ่โต

ตัวอย่างแบรนด์ที่กำลังมาแรงในกลุ่มนี้ เช่น The Row, Loro Piana หรือแม้แต่ Apple ที่กลายเป็นตัวแทนความหรูเงียบในกลุ่มเทคโนโลยี

แนวโน้มนี้หมายถึงการออกแบบแบรนด์และแคมเปญที่เน้นคุณภาพ วัสดุ ความใส่ใจในรายละเอียด และงานฝีมือ มากกว่าการขายชื่อเสียง

เทรนด์ที่ 2: ความยั่งยืนไม่ได้เป็นแค่ “เทรนด์” แต่คือ “มาตรฐานใหม่”

กว่า 60% ของผู้บริโภคลักชัวรีในรายงานระบุว่า “ความยั่งยืน” คือหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจเลือกแบรนด์

การใช้วัตถุดิบที่ย่อยสลายได้ การลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ หรือแม้แต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ให้สามารถรีไซเคิลหรือรีฟิลได้ ล้วนเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญ

แบรนด์อย่าง Stella McCartney หรือ Chopard ได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องในความโปร่งใสของห่วงโซ่อุปทาน

เทรนด์ที่ 3: ประสบการณ์พรีเมียมแบบ “Phygital” (Physical + Digital)

แบรนด์ลักชัวรีกำลังเร่งพัฒนา “ประสบการณ์ลูกค้า” ที่ผสมผสานระหว่างโลกจริงและดิจิทัล เช่น การเปิดบูติกเสมือนจริงใน Metaverse หรือบริการลูกค้าผ่าน Virtual Stylist

ตัวอย่างเช่น Burberry เปิดแฟลกชิปสโตร์ในโลก Roblox, Gucci พัฒนา NFT และ Louis Vuitton ใช้ AR ในการแสดงสินค้าในมือถือ

ผู้บริโภคคาดหวังมากกว่าการ “ซื้อของ” แต่ต้องการ “ประสบการณ์” ที่มีความเป็นส่วนตัว สร้างความรู้สึกพิเศษ และเชื่อมโยงกับอัตลักษณ์

เทรนด์ที่ 4: การเติบโตของลักชัวรีในตลาดเกิดใหม่

ตลาดอย่างประเทศไทย เวียดนาม อินเดีย และตะวันออกกลางกำลังกลายเป็นเป้าหมายใหม่ของแบรนด์หรูทั่วโลก

รายงานระบุว่าผู้บริโภคในตลาดเหล่านี้มีพฤติกรรม “Aspiration to Belong” คือการใช้แบรนด์ลักชัวรีเป็นบันไดแสดงสถานะและเข้าร่วมในวัฒนธรรมระดับโลก

โดยเฉพาะในประเทศไทย การเติบโตของกลุ่ม Upper Middle Class และพฤติกรรม “ท่องเที่ยว-ซื้อหรู” (Luxury Travel Shopping) ทำให้แบรนด์ลักชัวรีเริ่มลงทุนใน Flagship Store, Pop-up Store และแคมเปญเจาะกลุ่ม Gen Y, Gen Z

เทรนด์ที่ 5: “Re-commerce” และสินค้าลักชัวรีมือสอง

ตลาดลักชัวรีมือสอง (Luxury Resale) กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับ “คุณค่า” และ “ความยั่งยืน”

แพลตฟอร์มอย่าง The RealReal, Vestiaire Collective และแม้แต่แบรนด์เจ้าของเอง เช่น Gucci Vault ก็เข้าสู่ตลาดนี้ด้วยตนเอง

รายงานยังระบุว่าแบรนด์ที่เปิดตัวสินค้า Pre-loved เองสามารถควบคุมภาพลักษณ์และเพิ่มมูลค่าระยะยาวได้มากกว่าปล่อยให้ตลาดรองโตเอง

สรุป: แบรนด์หรูยุคใหม่ต้อง “ยืดหยุ่นแต่มั่นคง” กับคุณค่าหลัก

การทำตลาดสินค้าลักชัวรีในปี 2025 ต้องอาศัยความเข้าใจในผู้บริโภคหลายกลุ่ม การผสานระหว่างคุณภาพ ความยั่งยืน เทคโนโลยี และความเป็นมนุษย์

  • ผู้บริโภคหรูไม่ได้ซื้อเพราะ “ความหรู” แต่ซื้อเพราะ “ความหมาย”
  • การเล่าเรื่องและประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคลสำคัญยิ่งกว่าการลดราคา
  • แบรนด์ที่อยู่รอดไม่ใช่แบรนด์ที่ขายดีที่สุด แต่คือแบรนด์ที่เข้าใจลูกค้าและกล้า “ปรับตัว” อย่างจริงใจ

สำหรับผู้ประกอบ SMEs และ บริษัทต่างๆ อยากได้สำเนาของ Euro Monitor ขอค่าใช้จ่าย 1,000 บาทเป็นค่าอาหารแมว และ เดินทางไปทำบุญตามโรงพยาบาลต่าง ๆ นะครับ

พี่อ้วนสายมู

รับติดตาม Monitor Brand และ คู่แข่งทางการค้าข้อมูล Online และ Research offline

Service ที่มีให้บริการ

  1. ตัวแทนจำหน่าย Social Listening จาก Wisesight สั่งซื้อได้ที่ Link นี้
  2. สำเนา Global Research ช่วยค่าอาหารแมว สั่งซื้อได้ที่ Link นี้
  3. รับทำ Report รายงาน One Click ได้ Data-Insight ดูได้ที่ Link นี้

เรียนฟรี Social Listening ผ่าน Online ดูได้ที่ Link นี้

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ที่
พี่อ้วนสายมู
www.idea2mobile.com
wisesight zocial eye trainner
Call : 0863863896
Line id : e21eqg