ถ้าเราเคยผ่านตาใน ออนไลน์ ตอน Live ทิชชู่ 1 บาท ส่งฟรี จึงมีความสงสัยว่า ทิชชู่ Brand ต่าง ๆ ให้ห้างสรรพสินค้าเขาจะขายอย่างไร? หรือว่ายังขายได้อยู่ จึงเป็นเหตุที่มาของการอยากไปหาข้อมูลเพิ่มเติมว่า ณ ปัจจุบัน Brand ที่ขายกระดาษทิชชู่ กระดาษชำระ เขากระทบกับสินค้าจีนหรือไม่ หรือว่ายังขายได้ปรกติอยู่ ซึ่งถือว่าโชคดี ไป researh เพิ่มเติมจาก Euro monitor เห็นว่ามีข้อมูลมีประโยชน์เลยนำมา Update ใน Blog ต่อละกัน

สนใจ Report Euro montior ซื้อได้ที่ Link https://www.euromonitor.com/tissue-and-hygiene-in-thailand/report
Key Data Findings ตลาดกระดาษทิชชู่ค้าปลีกในประเทศไทย ปี 2024
ตลาดทิชชู่ค้าปลีกไทยปี 2024 ยังโตแรงโดยเฉพาะกลุ่มกระดาษชำระ ผู้นำยังเป็น Kimberly-Clark และแนวโน้มอนาคตยังสดใส เติบโตเฉลี่ยปีละ 6-7%
มูลค่าตลาดรวมเติบโต 8% คิดเป็นยอดขาย 14.0 พันล้านบาท ในปี 2024
กระดาษชำระ (Toilet Paper) เป็นกลุ่มที่ทำผลงานดีที่สุด โดยมีมูลค่าการขายเพิ่มขึ้น 9% เป็น 9.5 พันล้านบาท
Kimberly-Clark Thailand Co., Ltd. ครองตำแหน่งผู้นำตลาด มีส่วนแบ่งมูลค่าการขายอยู่ที่ 40%
คาดว่า ยอดขายรวมตลาดจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 7% (CAGR) ในแง่มูลค่าปัจจุบัน และ 6% ในมูลค่าคงที่ จนถึงแตะ 19.9 พันล้านบาทภายในระยะเวลาคาดการณ์ข้างหน้า
การแข่งขันที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและความยั่งยืน
การแข่งขันในตลาดกระดาษทิชชู่ค้าปลีกของไทยจะยังคงดุเดือด โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักคือ นวัตกรรมสินค้า การพัฒนาสู่สินค้าพรีเมียม และการขยายช่องทางจัดจำหน่าย แบรนด์ผู้นำตลาดจะมุ่งเน้นการพัฒนาสูตรใหม่ ปรับปรุงเนื้อสัมผัส และเสริมภาพลักษณ์ด้านสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น
ในขณะเดียวกัน ผู้เล่นรายใหม่อาจเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม เช่น เน้นการผลิตแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เน้นคุณสมบัติระดับหรู หรือชูจุดเด่นเรื่องราคาที่คุ้มค่า ในตลาดที่มีการแข่งขันสูงนี้ การควบรวมกิจการ (M&A) และความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างบริษัทต่าง ๆ มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการรวมพลังทางธุรกิจ และเพิ่มอิทธิพลของผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดมากขึ้น
2020 – 2024 Market Share ของแต่ละบริษัท

บริษัท Kimberly-Clark Thailand ยังคงครองส่วนแบ่งสูงสุด แม้จะลดลงเล็กน้อย
Berli Jucker Cellox มีสัดส่วนใกล้เคียงกันและทรงตัว
บริษัทอื่น ๆ เช่น Wang NT Paper, Grand Universal, และแบรนด์ Private Label มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตลอดช่วงเวลา
ตลาดกระดาษทิชชู่ค้าปลีกในประเทศไทย
Kimberly-Clark ยังคงเป็นผู้นำ ขณะที่แบรนด์บ้านเติบโตต่อเนื่อง
ในปี 2024 บริษัท Kimberly-Clark ยังคงครองความเป็นผู้นำในตลาดกระดาษทิชชู่ในช่องทางค้าปลีก โดยแบรนด์ Scott ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำไว้ได้อย่างมั่นคง ในขณะที่ Grand Universal กลายเป็นบริษัทที่มีการเติบโตและเคลื่อนไหวอย่างโดดเด่นที่สุดในปีเดียวกัน ทั้งแบรนด์ท้องถิ่นและแบรนด์ระดับนานาชาติต่างมุ่งมั่นเปิดตัวนวัตกรรมสินค้าใหม่ ๆ ควบคู่กับการสร้างแบรนด์และกลยุทธ์ทางการตลาดที่แข็งแกร่ง เพื่อดึงดูดและรักษาความภักดีของผู้บริโภค
ในช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่ (modern trade) สินค้าทิชชู่แบรนด์บ้าน (private label) เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ด้วยคุณภาพที่สามารถแข่งขันได้ในราคาที่ถูกกว่า จึงตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่า โดยไม่ต้องลดทอนคุณสมบัติพื้นฐาน เช่น ความนุ่ม และการดูดซับ สินค้าทางเลือกเหล่านี้สามารถดึงดูดผู้บริโภคที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน เนื่องจากยังสามารถให้ประสิทธิภาพที่ยอมรับได้ในราคาที่เหมาะสม
อีกหนึ่งปัจจัยที่เริ่มส่งผลต่อตลาดทิชชู่ในไทยคือ การเข้ามาของผลิตภัณฑ์ราคาถูกจากประเทศจีน ซึ่งวางจำหน่ายอย่างแพร่หลายผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ โดยสินค้ากลุ่มนี้มุ่งเป้าผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการประหยัดค่าใช้จ่าย แม้ว่าแบรนด์จากจีนจะยังอยู่ในตลาดเฉพาะกลุ่ม แต่การมีตัวตนทางออนไลน์ก็ช่วยเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคไทยได้อย่างหลากหลาย อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพและการปฏิบัติตามมาตรฐานอุตสาหกรรมในประเทศ ทำให้แบรนด์เหล่านี้ยังไม่สามารถเจาะตลาดลึกได้มากนัก ผู้บริโภคชาวไทยคาดหวังความสม่ำเสมอ ความปลอดภัยของวัสดุ สุขอนามัย และประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้ จึงยังไม่เปลี่ยนใจไปใช้แบรนด์ที่ไม่คุ้นเคย หากรู้สึกไม่มั่นใจในมาตรฐานสินค้า ความลังเลนี้เองที่ยังตอกย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับอย่าง Scott, Cellox, Zilk และ Kleenex
สินค้าจีนที่ยังไม่สามารถแทนที่ได้ เพราะความปลอดภัยและมาตราฐานในการผลิตสินค้าที่ได้รับมาตราฐาน
กลยุทธ์การจัดจำหน่ายและความสำคัญของพฤติกรรมผู้บริโภค
ร้านโชห่วยในท้องถิ่นยังคงเป็นช่องทางจัดจำหน่ายหลักของกระดาษทิชชู่ในปี 2024 แม้ว่าสัดส่วนจะลดลงอย่างช้า ๆ จากปีก่อนหน้า ร้านค้าประเภทนี้ยังคงมีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะกับครัวเรือนไทยที่พึ่งพาการซื้อสินค้าใกล้บ้านเพื่อความสะดวก ในขณะเดียวกัน ช่องทางอีคอมเมิร์ซ กลายเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายที่เติบโตเร็วที่สุดในปี 2024 โดยตอบโจทย์ผู้บริโภคในเมือง ด้วยความสะดวกในการจัดส่งถึงบ้าน มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย และราคาที่แข่งขันได้
ไฮเปอร์มาร์เก็ต มีสัดส่วนการจัดจำหน่ายเป็นอันดับสอง ด้วยข้อได้เปรียบจากพื้นที่กว้าง การจัดวางสินค้าที่หลากหลาย และโอกาสในการทำโปรโมชั่นแบรนด์ ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อ ก็มีบทบาทสำคัญในการนำเสนอแบรนด์ทิชชู่รายใหญ่ให้ถึงมือผู้บริโภค โดยมักใช้การจัดแสดงในร้าน และโปรโมชั่นระยะสั้นมาสนับสนุนยอดขาย
ช่องทางค้าปลีกดั้งเดิม เช่น ร้านโชห่วยในพื้นที่ชนบท ยังคงเป็นช่องทางสำคัญสำหรับแบรนด์ที่ต้องการเข้าถึงพื้นที่ห่างไกล ซึ่งผู้บริโภคอาจไม่มีร้านค้าสมัยใหม่หรือการเข้าถึงอีคอมเมิร์ซ ในขณะที่รายได้ในบางภูมิภาคเพิ่มขึ้น อาจมีผลต่อพฤติกรรมการซื้อเปลี่ยนไป แต่ความคุ้นเคยและความไว้ใจในร้านค้าท้องถิ่นยังคงทำให้ผู้บริโภคในพื้นที่เหล่านั้นสนับสนุนแบรนด์ขนาดเล็กหรือแบรนด์ท้องถิ่นต่อไป
เบื้องหลังความเปลี่ยนแปลงในช่องทางจัดจำหน่ายเหล่านี้คือการพัฒนาในเรื่องสุขอนามัยของผู้บริโภค โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท ที่เริ่มเปลี่ยนจากการใช้ผ้าขี้ริ้วมาเป็นกระดาษทิชชู่ ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในกิจวัตรของครัวเรือน ความสะดวกสบายและความตระหนักถึงประโยชน์ของทิชชู่แบบใช้แล้วทิ้งเป็นปัจจัยที่ช่วยผลักดันการเติบโตของสินค้าทุกประเภท
ถึงอย่างไร ความภักดีต่อแบรนด์ ยังถือเป็นหัวใจสำคัญ ผู้บริโภคมักเลือกแบรนด์ที่เชื่อมั่นได้ในเรื่องคุณภาพที่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะในเรื่องความสะอาดและความปลอดภัย นอกจากนี้ ความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสารเคมีในกระดาษทิชชู่ ยังทำให้ผู้บริโภคบางกลุ่มเริ่มให้ความสำคัญกับการอ่านฉลากสินค้า แบรนด์ที่มีความโปร่งใสในการแจ้งส่วนผสมและมาตรฐานการผลิตจึงสามารถสร้างความภักดีในกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพได้มากยิ่งขึ้น
Forecast Retail Sales of Tissue by Category: Value 2024-2029

สรุปวิเคราะห์ภาพรวมของกระดาษทิชชู่ที่จำหน่ายในประเทศไทย
มูลค่าตลาดรวมเติบโต 8% คิดเป็นยอดขาย 14.0 พันล้านบาท ในปี 2024 ถือว่ายังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และ สินค้าที่มีความปลอดภัยยังคงได้รับการตอบรับจากผู้บริโภค ถึงแม้สินค้าจีนจะเข้ามาตีตลาด แต่การใช้งานของทิชชู่จีนจะไปทำความสะอาดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ในร่างกายโดยตรง ถือว่าสินค้าใช้แล้วทิ้งและซื้อใหม่โดยตลอด
สำหรับผู้ประกอบ SMEs และ บริษัทต่างๆ อยากได้สำเนา ขอค่าใช้จ่าย 1,000 บาทเป็นค่าอาหารแมว และ เดินทางไปทำบุญตามโรงพยาบาลต่าง ๆ นะครับ
พี่อ้วนสายมู
รับติดตาม Monitor Brand และ คู่แข่งทางการค้าข้อมูล Online และ Research offline

Service ที่มีให้บริการ
- ตัวแทนจำหน่าย Social Listening จาก Wisesight สั่งซื้อได้ที่ Link นี้
- สำเนา Global Research ช่วยค่าอาหารแมว สั่งซื้อได้ที่ Link นี้
- รับทำ Report รายงาน One Click ได้ Data-Insight ดูได้ที่ Link นี้
เรียนฟรี Social Listening ผ่าน Online ดูได้ที่ Link นี้

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ที่
พี่อ้วนสายมู
www.idea2mobile.com
wisesight zocial eye trainner
Call : 0863863896
Line id : e21eqg