ปี 2023 เข้าสู่ยุค New Era ด้วย Generative A.I. จากคอมพิวเตอร์รับคำสั่งข้อมูลประมวลผล สู่การพัฒนาคอมพิวเตอร์ให้เรียนรู้ได้ด้วยตัวเองที่เรียกกันว่า Machine Learning เข้ามาช่วยให้คอมพิวเตอร์ประมวลผลเรียนรู้ เข้าใจภาษามนุษย์มากขึ้น ด้วยความสามารถเรียนรู้คำสั่ง Prompt คำถาม (Text) ส่งให้คอมพิวเตอร์ รับและประมวลผลด้วยการตอบคำถามในรูปแบบ ข้อความ Text (Text to Text), การสั่งให้ทำรูปภาพ (Text to Picture), ข้อความสู่ Video (Text to Video) นอกจากนั้นแล้วยังเข้ามาช่วยงานหลายสายงาน เช่น Programmer , Online Marketing ซึ่งเราจะรู้จัก Generative A.I. ที่โด่งดังคือ Open A.I. และบริการที่ได้รับการตอบรับมากที่สุด ก็คงเป็น Chat GPT ซึ่ง Open A.I. เองยังมีบริการอีกมากเช่น Dall-E การทำ Text ให้เป็นภาพ และ การต่อ API ให้กับ Opensource ต่างๆ ที่กำลังเป็นกระแสในปัจจุบัน
เราตั้งคำถามเพื่อให้ A.I. Guide Line คำตอบ ไม่ใช่เอาคำตอบทั้งหมดมาตอบคำถาม
การใช้ Generative A.I. คือ ให้เป็นตัวช่วยในการทำงาน ไม่ใช่เป็นการหาคำตอบสุดท้ายของการทำงาน สำหรับสายงานของ Social Listening นั้นถ้าเอามาช่วยเรา Guide Line ได้ดีมาก จากหัวข้อเช่น เราอยากจะวัดผล Campaign ทางการตลาด เราจะมี Performance แบบไหนได้บ้างในการวัดผลที่มีประสิทธิภาพ?
Social Listening เราใช้วัดผล Campaign Marketing ได้แบบไหนบ้าง
การใช้ Social Listening Tool ในการวัด Campaign Marketing ด้วย Performance สามารถทำได้หลากหลายวิธี เช่น
1.วัดประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา: Campaign Awareness สามารถวิเคราะห์ปริมาณและความเป็นไปได้ของการแพร่กระจายโฆษณาของคุณในสังคมออนไลน์ รวมถึงวิเคราะห์ปริมาณและลักษณะของการตอบกลับจากผู้ใช้งาน เพื่อวัดประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา
2. วิเคราะห์ความสนใจของกลุ่มลูกค้า: (Interest Segmentation) สามารถวิเคราะห์และจัดกลุ่มผู้ใช้งานตามความสนใจและพฤติกรรมการใช้งาน เพื่อช่วยปรับปรุงแผนการตลาดให้ตรงกับกลุ่มลูกค้า
3.วัดผลการเปลี่ยนแปลงของแบรนด์: (Comment Feedback) สามารถวิเคราะห์การพูดคุยเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณในสังคมออนไลน์ รวมถึงความคิดเห็นและความรู้สึกของผู้ใช้งานเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณ เพื่อวัดผลการเปลี่ยนแปลงของแบรนด์
4. วิเคราะห์ความสำเร็จของแคมเปญ: (ROI) สามารถวิเคราะห์ปริมาณและลักษณะของการสนทนาเกี่ยวกับแคมเปญ รวมถึงการวิเคราะห์ผลตอบรับจากลูกค้า เพื่อวัดความสำเร็จของแคมเปญ
KPI ของ Brands Awareness ของการจ้าง Influencer วัดผลจากอะไรได้บ้าง?
Reach: วัดจำนวนผู้ชมทั้งหมดของโพสต์ที่โดนแสดงผลบนช่องทางโซเชียลมีเดียของ Influencer
Impressions: วัดจำนวนการแสดงโพสต์ของ Influencer ในช่องทางโซเชียลมีเดียที่มีการเข้าถึงกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ
Engagement: วัดจำนวนการโต้ตอบของผู้ชมกับโพสต์ของ Influencer โดยรวมถึงการแสดงความคิดเห็น การแชร์ และการกดไลค์
Sentiment Analysis: วัดความรู้สึกของผู้ชมต่อแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ที่ถูกโฆษณาในโพสต์ของ Influencer
Brand Mentions: วัดจำนวนครั้งที่แบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ของคุณถูกกล่าวถึงในโพสต์ของ Influencer
Follower Growth: วัดจำนวนผู้ติดตามใหม่ของแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ของคุณหลังจากการโฆษณากับ Influencer
Conversion Rate: วัดจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์หรือทำการซื้อผลิตภัณฑ์หลังจากดูโพสต์ของ Influencer
ROI มีการคำนวณแบบไหนได้บ้าง?
เราอยากได้ ROI ในการดูว่า Performance ต่อการ Post 1 ครั้ง โดยมีสมาชิก Fan Page 10000 คน แต่ Engagement มีเพียง 500 เราจะใช้สูตรแบบไหน
สูตรการคำนวณ ROI หรือ Return on Investment ในการโพสต์บนโซเชียลมีดังนี้:
ROI = (รายได้ที่ได้ – ค่าใช้จ่าย) / ค่าใช้จ่าย x 100%
โดยที่ในกรณีของโพสต์บนโซเชียลมีนั้น รายได้ที่ได้คือ Engagement ที่เกิดขึ้นในโพสต์ และค่าใช้จ่ายคือค่าใช้จ่ายในการสร้างโพสต์
ดังนั้น สำหรับกรณีที่เรามีสมาชิก Fan Page 10000 คน แต่ Engagement มีเพียง 500 คน ในการคำนวณ ROI เราต้องมีข้อมูลเพิ่มเติมอีกหน่อยคือค่าใช้จ่ายในการสร้างโพสต์ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าเราใช้วิธีการสร้างโพสต์แบบใด แต่เราสามารถประมาณค่าใช้จ่ายได้โดยพิจารณาตัวชี้วัดต่อไปนี้:
- เวลาในการสร้างโพสต์
- ค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้สร้างเนื้อหาหรือนักการตลาด
- ค่าใช้จ่ายในการโปรโมทโพสต์
หลังจากนั้น เราสามารถนำข้อมูลทั้งหมดมาคำนวณ ROI ได้ตามสูตรด้านบน
ตัวอย่างเช่น หากเรามีค่าใช้จ่ายในการสร้างโพสต์ทั้งหมด 500 บาท และได้ Engagement จากโพสต์นั้น 500 คน เราสามารถคำนวณ ROI ได้ดังนี้:
ROI = (500 – 500) / 500 x 100% = 0%
ถ้าเราต้องการดูว่า Post 1 Post โดยมีสมาชิก Fan page จำนวน 50000 แต่ได้รับ Engagement มาเพียง 500 เราจะมีสูตรในการคำนวณได้ไหมว่า Post นี้ Performance ดี หรือ ไม่ดี
เพื่อดูว่าโพสต์นี้มีประสิทธิภาพดีหรือไม่ดี เราสามารถใช้สูตรการคำนวณ Engagement Rate (ER) ได้ โดยสูตรของ ER คือ:
ER = (จำนวน Engagement / จำนวนผู้ติดตาม) x 100%
ดังนั้น หากเรามีสมาชิก Fan page จำนวน 50000 แต่ได้รับ Engagement เพียง 500 คน จากโพสต์เดียว เราสามารถคำนวณ ER ได้ดังนี้:
ER = (500 / 50000) x 100% = 1%
ค่า ER ที่ได้คือ 1% ซึ่งเป็นค่าที่ต่ำมาก ดังนั้น เราสามารถสรุปได้ว่าโพสต์นี้มีประสิทธิภาพไม่ดีเนื่องจากมี Engagement ต่ำมาก ๆ โดยควรมีค่า ER อยู่ระหว่าง 3-5% เพื่อให้โพสต์มีประสิทธิภาพในการเชื่อมโยงและสร้างความสนใจของผู้ติดตามใน Fan page ของเรา.
บทสรุปในตัวช่วยของ Chat GPT ที่เข้ามาช่วย Guide Line ให้เราทำงานมีโครงสร้างและหลักการในการทำงานให้เราตีโจทย์จากสิ่งที่เราได้รับมาจาก Social Data วัดผลได้ง่ายขึ้น เท่ากับเรามีตัวช่วยตลอดเวลาของการวิเคราะห์งานทางด้าน Social Listening
เป็นอีกบทความที่เราเอา PROMPT ไปสอบถามกับ สายงานทางด้าน Social Listening แล้วเราได้อะไรกลับมาบ้าง เป็นอีกความรู้นอกตำราที่เรามีตัวช่วยที่ดี ในการทำงาน
สำหรับ องค์กร & SMEs ที่ต้องการใช้ Social Listening เพื่อหา Insight แล้ว ไม่มีพนักงาน หรือ ไม่อยากเสียเวลาในการดูข้อมูลสามารถใช้บริการจาก Website นี้ได้ครับ
บริการต่อท้าย IDEA2MOBILE.COM ให้บริการ
1.วิเคราะห์ Keywords เพื่อหา Insight behavior Customer เพื่อไปต่อยอดกลยุทธ์ทางการตลาด
2. Insight Content for Marketing เชิงลึกเพื่อเนื้อหาให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนขึ้น
3.Servey Online & Off-line เพื่อเข้าถึง Customer ได้ชัดเจนขึ้น
ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติม
บริษัท ฟร้อนท์ไลน์ เทคโนโลยี จำกัด
Tel: 086-3863896