Beginning 301 เริ่มต้นใช้งาน Social Listening บทที่ 10 ลงมือหา Insight Marketing

บทความนี้ก็เขียนมาเรื่อย ๆ จะถึงบทที่ 10 จนได้ ด้วยมุมมองที่ได้รับ Feedback ที่ดีจากเจ้าของกิจการที่ได้ไป Sharing กัน บริษัท ฯ ส่วนใหญ่ก็จะทำ Strategy Marketing โดยการใช้เครื่องมือ Mar-tech ในการสื่อสารทางการตลาดเต็มรูปแบบแล้วไม่ว่าจะเป็นการทำ Website / Social Network หรือ แม้กระทั่งการยิง Ads ด้วย Facebook หรือช่องทางอื่น ๆ ซึ่งก็มีคำถามกลับมาว่าเพียงพอหรือยัง แล้วทำไมต้องมาใช้ Social Listening คำตอบที่ตอบกลับไปก็คือ Social Listening มันทำให้เครื่องมือที่พี่ใช้มา จะช่วยทำให้ผลลัพท์มันดีกว่าเดิม ถ้าผลลัพท์มันดีกว่าเดิม เท่ากับ เราแข่งกับตัวเองในแต่ละวัน ให้มันดีขึ้น

เราตอบคำถามให้ตัวเองก่อน เราทำการตลาดให้สินค้าและบริการของตัวเองดีพอหรือยัง , เรารู้จักลูกค้าดีพอหรือยังที่เราได้สื่อสารออกไป , เรารู้คู่แข่งไหมว่าเขาทำการตลาดอย่างไร, แล้วทำไมเราไม่ลองศึกษาจาก Social Data ที่มีการพูดคุยกันบนโลกออนไลน์หละ

ลงมือใช้งานหา Insight ด้วย Social Listening

บทความนี้จะพาไปลงมือทำหา Insight ด้วยเครื่องดื่มน้ำผสมวิตามินที่ขายในประเทศไทย โดยใช้ Social Data จาก Mandala Analytics

ถ้ามีคำถามว่าน้ำดื่มวิตามินทั้ง 2 ชนิดนี้ บนโลกออนไลน์ มีการคุยอะไรกันบ้าง , มีข้อมูลอะไรที่เราไปต่อยอดได้บ้าง,เขาทำการตลาดอย่างไรบ้าง อื่น ๆ
Google Search เราจะได้คำตอบของเราเบื้องต้นหรือเปล่า ?

ผลลัพท์จาก Google Search จะมีผลของการ Search มากเกินไป ส่วนใหญ่จะเจอเป็น Advertising โฆษณาสินค้าและบริการไม่สามารถหามุมมองที่ต้องการค้นหาได้เลย

Google Trends ลองวัดหา Trends ที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ทั้งภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษดูว่า ผลลัพท์ออกมาเป็นอย่างไร ?

จะเห็นได้ว่าผลลัพท์ในรูปแบบของการค้นหาด้วย Web นั้น ยันฮีวิตามิน กราฟเส้นสีแดง จะถูกค้นหามากที่สุด ซึ่งเราจะต้องไปเจาะลึกเพิ่มเติมว่า การพูดถึงหรือการค้นหามากที่สุดนั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องใด แล้วทั้ง 2 Brands สินค้า มีอะไรบ้างที่พูดกันบนโลกออนไลน์ โดยเรากำหนดขั้นตอนการเข้าไปใช้ Social Analytics ดังนี้

Keywords Research กำหนด Keywords เพื่อการหามุมมองของ Insight ที่เกิดขึ้นทั้งนี้กำหนดไว้ ประมาณ 3 Level หรือ น้ำหนักในการหา Insight

ใน Social Listening ก็ต้องกำหนด Keywords ให้กำหนดทั้ง 3 Levels ไว้

Overall Keywords: ภาพรวมของน้ำดื่มวิตามิน,น้ำวิตามิน, Water Plus
Brand A: Purravittaminwater,purra vitamin water, เพอร์ร่าวิตามินวอเตอร์,เพอร์ร่าน้ำวิตามิน
Brand B: น้ำดื่มยันฮี, ยันฮีวิตามินวอเตอร์,ยันฮีวิตามิน,ยันฮีวิตามินวอเตอร์
Brand other : Brand อื่น ๆ

ผลลัพท์ของ Overall ภาพรวมของ Keywords ภาพรวมของน้ำดื่มวิตามิน,น้ำวิตามิน, Water Plus

Time Frame : 01 – Jan 2021 – 31 Mar -2021

ภาพรวมของ Overall บอกถึงอะไร บอกถึงการพูดถึงของน้ำวิตามิน , น้ำผสมวิตามิน , วิตามินวอเทอร์ นั้น มีการพูดถึงอย่างต่อเนื่อง,ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณา contents ของ Brands หรือ ของ Page เองช่องทางที่คนติดตามมากที่สุดเป็นช่องทาง Facebook

เราสามารถเจาะลึกเพิ่มเติมได้ว่า คนส่วนใหญ่คนหาน้ำดื่มวิตามิน ด้วยคำพูดไหนมากที่สุด

ผลลัพท์ที่ได้ของคนบนโลก ออนไลน์ที่นิยมในการใช้คำหา จะใช้คำว่า น้ำดื่มวิตามิน มากที่สุดถึง (31%) รองลงมา คือ วิตามิน วอเตอร์ (27.8%)

2. Compare brand segment มีอะไรบ้าง ของรายละเอียดทั้ง 2 Brands ที่เกิดขึ้น วัดด้วยข้อมูลที่มีการพูดถึง(Mentions) และ การมีส่วนร่วม (Engagement) โดยทั้ง 2 Brands กระแสบนโลกออนไลน์ คนส่วนใหญ่รับรู้อะไรจากที่ Brands สื่อสารออกมา

ลงมือใช้งานหา Insight ด้วย Social Listening

สังเกตุได้ว่า เพอร่าวิตามินนั้น มี Mention (ข้อความที่พูดถึงบนโลกออนไลน์) น้อยกว่า ยันฮีวิตามิน แต่ engagement (มีส่วนร่วมจะมากกว่า)

เราสามารถ Did down เข้าไปดูได้ว่า ของแต่ละ Brands มี กิจกรรมอะไรหรือเปล่าที่ทำให้ Engagement นั้นสูง

ซึ่งคำตอบที่ได้ Brands เพอร่าวิตามินนั้นมาจาก Presenter ไบเฟิร์น ส่วน Brands ยันฮีวิตามินนั้นเป็นการลงข่าวเกี่ยวกับ น้ำดื่มที่มีการให้ข่าวว่าไม่มีวิตามินอยู่ในน้ำดื่ม ซึ่งเป็น Content ที่พาไปโรงงานพิสูจน์ให้เห็นว่ามีวิตามินมีอยู่จริง

3. Focus Keywords ทั้ง 2 Brands นั้น บนโลกออนไลน์เขานึกถึง คำอะไร ถ้าจะใช้สื่อสารทางการตลาดควรจะใช้คำไหนมากที่สุด

คำที่ควรแนะนำในการสื่อสารทางการตลาด ผลลัพท์ที่ได้ของทั้ง 2 Brands

ผลปรากฏว่า เพอร่าวิตามิน คนจะชอบภาษาอังกฤษในการค้นหา มากกว่า ภาษาไทย

ส่วนของ ยันฮีวิตามิน คนจะชอบภาษาไทย โดยพิมพ์คำว่า ยันฮีวิตามิน มากกว่า

4. Performance Content marketing เราวัด Content เปรียบเทียบกันในแต่ละช่องทางกันได้ว่า Engagement ใครดีกว่ากัน (ช่องทาง Facebook เปรียบเทียบระหว่าง Brands) ผลปรากฏว่า ของ เพอร่า วิตามินทำ Engagement ได้ดีกว่า

5. Content Marketing เปรียบเทียบระหว่าง 2 Brands ด้วย Contents Post วัดผลด้วย AI. ภาพรวมของ Content ทางยันฮีทำ Contents ได้ดีกว่า

6. Time Analytics วิเคราะห์เวลาที่ตัวเรา และ คู่แข่งขันทำการ Post

7. KOL / Influencer Page ไหนที่คนติดตาม แล้ว Relate กับ Keywords น้ำดื่มวิตามินแล้วได้รับความสนใจมาก

เราก็ต้องกลับไปดูภาพรวมที่เกิดขึ้นที่ตั้งไว้ของ Keywords ภาพรวมของน้ำดื่มวิตามิน,น้ำวิตามิน, Water Plus ว่า Top Engagement นั้น ใครเป็นคนพูดถึงมากที่สุด

ผลลัพท์ที่ได้จากช่อง Facebook Page I Roam Alone

สรุป Insight Marketing ที่ได้ Case Study นี้ไป จะได้ข้อมูลมาประกอบเพื่อการตัดสินใจในการวางแผน Strategy Marketing ดังต่อไปนี้

Keywords Research เราสามารถรับรู้ได้ว่า คนส่วนใหญ่ค้นหาคำอะไร ที่มากที่สุด ถ้าพูดถึงเกี่ยวกับ น้ำวิตามิน (Brand เองก็ควรจะใช้คำที่คนค้นหามากที่สุด)
Compare brand segment ของรายละเอียดทั้ง 2 Brands ที่เกิดขึ้น วัดด้วยข้อมูลที่มีการพูดถึง(Mentions) และ การมีส่วนร่วม (Engagement) โดยทั้ง 2 Brands กระแสบนโลกออนไลน์ คนส่วนใหญ่รับรู้อะไรจากที่ Brands สื่อสารออกมา
Focus Keywords ทั้ง 2 Brands นั้น บนโลกออนไลน์เขานึกถึง คำอะไร ถ้าจะใช้สื่อสารทางการตลาดควรจะใช้คำไหนมากที่สุด (Brand เองก็ทราบแล้วว่าจะใช้คำอะไรในการสื่อสารออกมา)
Performance Content marketing เราวัด Content เปรียบเทียบกันในแต่ละช่องทางกันได้ว่า Engagement ใครดีกว่ากัน (ช่องทาง Facebook เปรียบเทียบระหว่าง Brands) ผลปรากฏว่า ของ เพอร่า วิตามินทำ Engagement ได้ดีกว่า จะทำการ แก้เกมส์นี้อย่างไร
Content Marketing เปรียบเทียบระหว่าง 2 Brands ด้วย Contents Post วัดผลด้วย AI. ภาพรวมของ Content ทางยันฮีทำ Contents ได้ดีกว่า จะปรับปรุงเนื้อหาอย่างไรให้ได้ผลมากกว่าเดิม
Time Analytics วิเคราะห์เวลาที่ตัวเรา และ คู่แข่งขันทำการ Post ควรจะ Post เวลาไหน
KOL / Influencer Page ไหนที่คนติดตาม แล้ว Relate กับ Keywords น้ำดื่มวิตามินแล้วได้รับความสนใจมาก เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจจ้าง KOL